ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมอประดิษฐ์” ชี้ บรรจุแพทย์จบใหม่ล่าช้า 9 เดือน สะท้อนวิกฤตบริหารบุคลากรในระบบสาธารณสุข กระทบขวัญกำลังใจและเชื่อมั่นในระบบราชการ เหตุการบริหารบุคลากร สธ.ขึ้นอยู่กับ ก.พ. แนะ ก.พ.หากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ควรเปิดให้ สธ.บริหารเอง ขณะเดียวกันยังเป็นผลจากนโยบายจำกัดกำลังคน ชี้รัฐต้องเปิดไฟเขียวให้ในหน่วยงานที่มีปัญหาและขาดแคลนบุคลากร เช่น สายงานสาธารณสุข

นพ.ประดิษฐ์ ไชยบุตร

นพ.ประดิษฐ์ ไชยบุตร ประธานสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) กล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวปัญหาแพทย์จบใหม่ซึ่งบรรจุปี 2559 รับเงินเดือนล่าช้าถึง 9 เดือนว่า เรื่องนี้เท่าที่ทราบกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ทำเรื่องเสนอบรรจุไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว ก่อนที่แพทย์จบใหม่จะลงพื้นที่เพื่อใช้ทุน มองว่าเป็นเรื่องของ ก.พ.ที่ต้องนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติตำแหน่งบรรจุซึ่งไม่ทราบว่าทำไมจึงล่าช้า แต่ สธ.ได้รับคำตอบเรื่องนี้กลับมาในเดือน พ.ย. 59 และอยู่ระหว่างดำเนินการเบิกจ่ายเงินเดือนให้กับแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกรที่จบและใช้ทุนปี 2559

ทั้งนี้มองว่าสาเหตุปัญหาที่เกิดขึ้นอาจมาจากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดกำลังคนในระบบราชการ ส่งผลให้การบรรจุตำแหน่งใหม่ของ สธ.มีปัญหา ขณะที่ สธ.เองด้วยภาระงานในระบบสาธารณสุขที่ยังขาดแคลนบุคลากรทำให้ต้องมีการเสนอขออัตรากำลังบรรจุเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนตัวไม่รู้ว่ารัฐบาลและ ก.พ.เองเห็นความจำเป็นและความสำคัญของอัตรากำลังในงานสาธารณสุขมากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากเห็นความจำเป็นก็ควรมีการดำเนินการในเรื่องนี้ให้เร็วกว่านี้ หรือควรเป็นไปตามระยะเวลาตามขั้นตอน

เพราะการบรรจุแพทย์จบใหม่นี้มีประจำในทุกปี แต่ที่ผ่านมากลับพบว่า การบรรจุแพทย์ ทัตนแพทย์ และเภสัชกร รวมถึงการเบิกจ่ายเงินเดือนเริ่มล่าช้าและขยับขึ้นทุกปี โดยปีนี้มีการบรรจุและเบิกจ่ายเงินเดือนล่าช้าสุดนานถึง 9 เดือน ทำให้เแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสักร ที่จบในปี 2559 ที่มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบความเป็นอยู่ของตัวเอง ของครอบครัวและของพ่อแม่ ได้รับความเดือดร้อน  

“ต้องถามว่าหากเราทำงานมานานถึง 9 เดือนแล้ว แต่กลับยังไม่ได้รับเงินเดือนเลย จะเดือดร้อนแค่ไหน แม้ว่าหลาย รพ.จะมีมาตรการช่วยเหลือ โดยบางแห่งมีเงินยืม แต่ไม่ใช่ทุก รพ.ที่มีนโยบายแบบนี้ ซึ่งเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการจัดการบุคลากรในระบบสาธารณสุข จำเป็นที่ต้องหาทางแก้ไขปัญหา ซึ่งที่ผ่านมาเรื่องนี้ได้ส่งผลต่อขวัญกำลังใจบุคลากรในระบบ และยังมีผลต่อทัศนคติและความเชื่อมั่นในระบบราชการด้วย” ประธาน สพศท. กล่าว

นพ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า เรื่องบุคลากรในกระทรวงสาธารณสุขมีปัญหามานาน เพราะงานสาธารณสุขนั้นภาระงานมีมาก แต่คนทำงานมีน้อย ทำให้คนที่ทำงานอยู่ในระบบ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล หรือวิชาชีพต่างๆ ล้วนแต่ทำงานหนัก ขณะที่ สธ.เองที่เป็นหน่วยงานต้นสังกัดกลับไม่มีอำนาจหน้าที่บริหารบุคลากรเอง แต่กลับเป็น ก.พ.บริหาร ซึ่งหาก ก.พ.ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ก็ไม่ควรปล่อยให้ปัญหาสะสมและเรื้อรัง ควรมอบให้ สธ.เป็นผู้บริหารในเรื่องนี้แทน ทั้งนี้ในฐานะที่เป็นคนทำงาน ใครจะมาบริหารนั้นย่อมได้ แต่ต้องสามารถแก้ไขปัญหาบุคลากรสาธารณสุขที่เป็นอยู่ขณะนี้

“ผมก็เข้าใจ ก.พ. เพราะนโยบายรัฐบาลให้จำกัดตำแหน่งในระบบ แต่บริบทของ สธ.นั้นแตกต่างจากหน่วยงานอื่น เป็นหน่วยงานที่ต้องดูแลสุขภาพและให้การรักษาประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาเรามีปัญหาขาดคนค่อนข้างมาก ดังนั้นหากจะแก้ไขในเรื่องนี้ รัฐบาลควรเปิดกว้างและแก้ไขปัญหาตามข้อเท็จจริง โดยส่งสัญญาณไปยัง ก.พ.ว่านโยบายจำกัดกำลังคนควรใช้ได้กับหน่วยงานไหนและควรเปิดช่องให้หน่วยงานใด ซึ่งจะทำให้ ก.พ.ทำงานแก้ไขปัญหาได้” ประธาน สพศท. กล่าว

ต่อข้อซักถามว่า มีการระบุถึงสาเหตุความล่าช้าว่ามีการเปลี่ยนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนชุดใหม่ นพ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า เรื่องไหนที่จำเป็นและเร่งด่วนง ไม่ว่าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนคณะทำงานก็จำเป็นต้องเดินหน้าและดำเนินการต่อเนื่อ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบขึ้น