ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

‘ทันตแพทย์’ เร่งทำข้อเสนอยื่นประกบ กฎหมายลูก พ.ร.บ.พลังงานนิวเคลียร์ฯ คาดแล้วเสร็จภายในกลางเดือน ก.พ.นี้ หวังปลดล็อคเครื่องเอ็กซเรย์ทางการแพทย์พ้นข้อจำกัด

ทพ.ไพศาล กังวลกิจ นายกทันตแพทยสภา กล่าวถึง พ.ร.บ.พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ.2559 ซึ่งตีพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2560 ว่า กฎหมายคงยังไม่สามารถบังคับใช้ได้จริงภายในวันที่ 1 ก.พ.2560 เนื่องจากกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องยังไม่เรียบร้อย ซึ่งในประเด็นนี้หลังจากเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ทันตแพทยสภาพร้อมด้วย นายกทันตแพทยสมาคม ได้เข้าพบและสวัสดีปีใหม่ ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในโอกาสเดียวกันนี้จึงได้หารือความคืบหน้าที่ทันตแพทยสภาและสภาวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขเสนอให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ออกกฎกระทรวงยกเว้นให้เครื่องเอ็กซเรย์ทางการแพทย์ที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคไม่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.พลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ.2559

“จากการหารือครั้งนั้น รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ระบุว่า มีแนวโน้มที่จะดำเนินการตามข้อเสนอของสภาวิชาชีพฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือภายในกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ก่อน” นายกทันตแพทยสภา กล่าว

ด้าน ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ แกนนำเครือข่ายทันตแพทย์ภาครัฐและเอกชน ชมรมทันตอาสา กล่าวว่า แม้ว่ากฎหมายพลังงานนิวเคลียร์ฉบับใหม่จะระบุว่าให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2560 แต่เชื่อว่ายังไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง เนื่องจากกฎกระทรวงยังออกมาได้ไม่ครบถ้วน ขณะนี้ช่องทางเดียวที่เปิดคือการทำกฎกระทรวงเข้าไปประกอบการพิจารณา แต่ถึงอย่างไรก็เป็นอำนาจของ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ในการตัดสินใจ ส่วนตัวคาดว่ากฎกระทรวงที่ทางราชการทำน่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้ ฉะนั้นทางผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมก็พยายามจะหาเหตุผลเฉพาะจุดของตัวเองแล้วร่างให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ถัดจากนี้ หรือประมาณกลางเดือน ก.พ.นี้ เพื่อให้ถึงมือ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ก่อน

ทพ.เผด็จ กล่าวอีกว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า ทาง ปส.(สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ) เร่งทำกฎหมายให้มีผลบังคับใช้ ซึ่งพบว่าเนื้อหาสาระของกฎหมายมีความปั่นป่วนย้อนแย้งกันในหลายประเด้น เช่น ขนาดเท่านี้ถูกควบคุม แต่ถ้าใหญ่เกินขนาดที่ควบคุมไปอีกมากแต่อยู่ในห้องปิดกลับไม่ถูกควบคุม ขอตั้งข้อสังเกตว่าเฉพาะคำขอที่ต้องยื่นขอครอบครองเครื่องเอ็กซเรย์นั้น มีการพุ่งเป้ามาที่ผู้ประกอบวิชาชีพทันตพทย์เพียงอย่างเดียวใช่หรือไม่ แล้วเอกสารที่ต้องกรอกมีความยาวหลายสิบหน้า คำถามคือเป็นการเจตนาจงใจเพื่อให้ทันตแพทย์รับภาระที่หนักขึ้นหรือไม่