ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.เผยสิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครอบคลุมสิทธิประโยชน์ “ไฮเปอร์บาริกแชมเบอร์” ช่วยผู้ป่วยจากโรคน้ำหนีบรอดชีวิตและพ้นภาวะพิการ อยู่ในกลุ่มโรคค่าใช้จ่ายสูง หนุนค่ารักษาหน่วยบริการเพิ่มเติม ระบุปี 2552 ถึงปัจจุบัน รักษาผู้ป่วยแล้วกว่า 188 ราย พร้อมเดินหน้าปี 60 ดูแลต่อเนื่อง     

นพ.ชูชัย ศรชำนิ

นพ.ชูชัย ศรชำนิ รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า โรคน้ำหนีบเกิดจากฟองก๊าซในเลือดหรือในเนื้อเยื่อ เมื่อมีการลดความกดดันไม่เพียงพอ หรือไม่ลดความกดดันเลยหลังการดำน้ำลึกมากกว่า 30 ฟุตน้ำทะเล และดำเป็นเวลานานหลายชั่วโมง จนกระทั่งเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายได้รับก๊าซไนโตรเจนภายใต้ความกดดันจนเกิดภาวะอิ่มตัว เกิดการรวมตัวกันเป็นฟองอากาศกระจายไปทั่วร่างกาย เมื่อก๊าซไนโตรเจนมีปริมาณมากกว่าก๊าซชนิดอื่นในอากาศผสม จึงละลายในเลือดและเนื้อเยื่อร่างกายในปริมาณมากเกิน เป็นภาวะที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายถึงขั้นพิการและเสียชีวิตได้ ซึ่งมักพบในกลุ่มชาวประมงและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมดำน้ำ 

นพ.ชูชัย กล่าวว่า ในการรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้จะต้องให้ออกซิเจนภายใต้แรงดันสูง ด้วยการใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า ไฮเปอร์บาริกแชมเบอร์ (Hyper Baric Chamber) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมาก สปสช.จึงได้กำหนดให้เป็นสิทธิประโยชน์เพื่อให้ผู้ป่วยสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเข้าถึงการรักษาตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา และเพื่อไม่ให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยไฮเปอร์บาริกแชมเบอร์เป็นภาระของโรงพยาบาลที่ให้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้พื้นที่ติดทะเล คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) จึงเห็นควรกำหนดให้อยู่ในกลุ่มโรคค่าใช้จ่ายสูง โดยโรงพยาบาลที่ให้บริการสามารถเบิกจ่ายเพิ่มเติมมายัง สปสช.ได้อีก

ทั้งนี้ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2552 มีผู้ป่วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่เข้ารับบริการไฮเปอร์บาริกแชมเบอร์ จำนวน 188 ราย โดยล่าสุดในปี 2559 มีผู้ป่วยจำนวน 27 ราย สำหรับในปี 2560 สปสช.ยังคงสิทธิประโยชน์การรับไฮเปอร์บาริกแชมเบอร์ (Hyper Baric Chamber) เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ป่วยรับบริการแล้ว 27 ราย (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2560) โดยกำหนดให้หน่วยบริการเบิกจ่ายค่ารักษาได้ตามจริง คำนวณได้ไม่เกินชั่วโมงละ 12,000 บาท

“แม้ว่าจะมีผู้เจ็บป่วยจากภาวะโรคน้ำหนีบไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยโรคค่าใช้จ่ายสูงอื่นๆ แต่จำเป็นต้องได้รับการดูแลเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษา เพราะเมื่อผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้รับการรักษาด้วยไฮเปอร์บาริกแชมเบอร์จะทำให้มีโอกาสกลับมาสู่ภาวะปกติดังเดิมได้ นับเป็นความคุ้มค่าสูงสุดในการรักษาผู้ป่วย ทั้งยังเป็นไปตามเจตนารมณ์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุม” รักษาการเลขาธิการ สปสช. กล่าว