ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปส.ชี้แจงเหตุต้องกำกับดูแลเครื่อง X-ray ทันตกรรม ระบุ 3 เม.ย.นี้ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ นัดหารือ ประธานราชวิทยาลัยรังสีแพทย์ ประธานคณะกรรมการวิชาชีพรังสีเทคนิค คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ เพื่อหาข้อสรุปในประเด็นดังกล่าว

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ได้เผยแพร่เหตุผลที่ต้องกำกับเครื่อง X-ray ทันตกรรม ทางเว็บไซต์ของสำนักงาน www.oap.go.th โดยระบุว่า หลังจากพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ.2559 ได้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 60 นั้น ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในวงการทันตแพทย์ไทย เกี่ยวกับการกำกับดูแลเครื่องเอกซเรย์ทันตกรรม ซึ่ง ปส.มิได้นิ่งนอนใจต่อประเด็นดังกล่าว โดยได้รับฟังและเร่งพิจารณาข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อหาข้อสรุปที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและชัดเจนในข้อเท็จจริง ปส.ขอชี้แจง ดังนี้

1. พระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2559 มีเจตนารมณ์ในการควบคุมการใช้ประโยชน์วัสดุกัมมันตรังสี และเครื่องกำเนิดรังสี เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ใช้ ผู้รับบริการ และประชาชนทั่วไป รวมถึงสิ่งแวดล้อม

2. พระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2559 และกฎหมายลูก มีเนื้อหาเป็นไปตามมาตรฐานทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ

3. เครื่องกำเนิดรังสีทางทันตกรรมอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติตามพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. 2504 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2508 อย่างต่อเนื่องตลอดเวลากว่า 50 ปีแล้ว โดยมีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นหน่วยงานสนับสนุนทางเทคนิคให้กับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติในการตรวจสอบคุณภาพเครื่องกำเนิดรังสี ซึ่งยังใช้เป็นหลักเกณฑ์การกำกับดูแลภายใต้พระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2559 นี้ด้วย

4. เครื่องกำเนิดรังสีทางทันตกรรมมีค่าพลังงาน 60-120 keV (หรือค่าความต่างศักย์ของเครื่องกำเนิดรังสี 60 kV - 120 kV) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับเครื่องตรวจวัดความหนาแน่นกระดูก และเครื่องเอกซเรย์เต้านม (เครื่องแมมโมแกรม) เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. จึงจำเป็นต้องกำกับดูแล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ และประชาชนผู้รับบริการ

5. สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้มีการประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดผ่านกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตามนโยบายของรัฐมนตรีทั้ง 2 กระทรวง

ทั้งนี้ในวันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2560 ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้นัดหารือผู้เชี่ยวชาญทางรังสี ได้แก่ ประธานราชวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย ประธานคณะกรรมการวิชาชีพรังสีเทคนิค คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยต่างๆ คณะเทคนิคการแพทย์ และผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อหาข้อสรุปในประเด็นดังกล่าว ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติม ปส.จะเร่งรวบรวมและประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มส่งเสริมฝึกอบรมและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สำนักนโยบายและบริหารด้านพลังงานปรมาณู สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ โทรศัพท์ 0 2596 7600 ต่อ 1123 – 1127