ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายกสภาการสาธารณชุมชน เผย ปี 60 สภาฯ ยังไม่ได้รับงบอุดหนุนงวดแรกจาก สธ. 3.4 ล้านบาท หวั่นทำรับรองวิชาชีพหมออนามัยสะดุด ระบุ คกก.สภาฯ ยังเดินหน้าทำงานต่อเนื่อง คาดตามแผนโรดแมปไม่เกิน ก.ย.-ต.ค. เปิดสอบสมาชิกคุณสมบัติพร้อม ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพหมออนามัยได้

นายไพศาล บางชวด

นายไพศาล บางชวด นายกสภาการสาธารณสุขชุมชน กล่าวว่า จากการดำเนินงานโดยคณะกรรมการสาธารณสุขชุมชน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประชุมกรรมการไปแล้ว 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2560 ที่ได้มีการเลือกนายกสภาการสาธารณสุขชุมชน อุปนายกคนที่หนึ่ง และอุปนายกคนที่สอง พร้อมทั้งมีการแต่งตั้งเลขาธิการ รองเลขาธิการ และเหรัญญิก และวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 6 คณะ ประกอบด้วย อนุกรรมการจรรยาบรรณ อนุกรรมการสอบสวน อนุกรรมการมาตรฐานวิชาชีพและสอบขึ้นทะเบียน อนุกรรมการกฎหมาย อนุกรรมการรับรองหลักสูตร และอนุกรรมการยุทธศาสตร์ รวมทั้งคณะทำงานเพิ่มเติม พร้อมกันนี้ยังได้เห็นชอบแผนการใช้จ่ายงบประมาณของสภาการสาธารณสุขชุมชน ปี 2560 ซึ่งได้นำเสนอต่อ รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ  

ทั้งนี้จนถึงขณะนี้เป็นเวลาล่วงเลยมากว่า 6 เดือนแล้ว นับแต่เดือนตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นปีเริ่มงบประมาณ จนถึงเมษายน 2560 สภาการสาธารณสุขชุมชนยังไม่ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากงบประมาณเหลือจ่าย เพื่อเบิกจ่ายเป็นงบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนทั่วไป รายการเงินอุดหนุนสภาการสาธารณสุขชุมชน ซึ่งเป็นจำนวน 3,400,700 บาท ในโอกาสแรกก่อนตามที่นายกรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว โดยอ้างอิงตามหนังสือกระทรวงสาธารณสุข ด่วนที่สุด ที่ สธ 0205.07/274 ลงวันที่ 24 มกราคม 2560

นายไพศาล กล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้สภาการสาธารณสุขชุมชนจะยังไม่ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข แต่ในส่วนของกรรมการและอนุกรรมการ ยังคงมุ่งมั่นตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อให้การดำเนินงานของสภาการสาธารณสุขชุมชนบรรลุตามวัตถุประสงค์ตามกรอบเวลาที่กฎหมายบัญญัติไว้ และให้เป็นไปตามความต้องการของสมาชิกและหมออนามัยในการกำหนดเป็นวิชาชีพ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีความคืบหน้าทั้งการประชุมคณะอนุกรรมการยุทธศาสตร์ที่ได้ยกร่างแผนยุทธศาสตร์ไว้ในเบื้องต้น การประชุมคณะอนุกรรมการมาตรฐานวิชาชีพและสอบขึ้นทะเบียนฯ ที่เตรียมยกร่างกรอบมาตรฐานวิชาชีพไว้มี 4 ด้าน และการประชุมของคณะทำงานกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ เพื่อเสนอต่ออนุกรรมการมาตรฐานวิชาชีพและสอบขึ้นทะเบียน เป็นต้น

นอกจากนี้ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม 2560 สภาการสาธารณสุขชุมชนยังมีการกำหนดจัดโครงการอบรมความรู้ทางวิชาการ มาตรฐานวิชาชีพ และมาตรฐานจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ให้กับสมาชิกและบุคลากรสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 ภูมิภาค เมื่อร่างข้อบังคับต่างๆ ทุกฉบับที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้น และผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมคณะกรรมการสภาการสาธารณสุขชุมชน แล้วนำเสนอต่อสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาและประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ ซึ่งไม่น่าเกินกรอบเวลาที่วางไว้คือในเดือนกันยายนถึงตุลาคม 2560 เพื่อให้สมาชิกที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเข้าสู่การสอบและขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาธารณสุขชุมชน

“หากสภาการสาธารณสุขชุมชนได้ทำงานอย่างเต็มที่ ก็จะไปดูแลควบคุมมาตรฐานการให้บริการประชาชนและมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของผู้ประกอบวิชาชีพนักสาธารณสุขหรือที่เรียกกันว่าหมออนามัยให้มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ หรือ License หากสภาฯ เดินหน้าได้อย่างไม่สะดุด ก็จะทำให้หมออนามัยมีมาตรฐานวิชาชีพและมาตรฐานจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ย่อมเป็นที่น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น” นายไพศาล กล่าว