ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลผลิตผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายและยุทธศาสตร์สุขภาพ คัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสม ปีละ 10 คนใน 5 ปี สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนและอภิบาลระบบสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยหลักสูตรผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายและยุทธศาสตร์สุขภาพ (Health Policy and Strategy Development Programme) ระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์) และ มหาวิทยาลัยมหิดล (คณะสาธารณสุขศาสตร์) โดย รศ.ดร.ประยูร ฟองสถิตย์กุล คณบดีฯ ร่วมมือพัฒนาศักยภาพบุคลากรเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายและยุทธศาสตร์รุ่นใหม่ ตอบสนองความต้องการของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งระดับส่วนกลางและภูมิภาค โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพ สร้างให้เป็นบุคลากรที่มีภาวะผู้นำ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์ เพื่อขับเคลื่อนและอภิบาลระบบสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมาย ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน

โดยสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินการสอบคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าเรียนหลักสูตรสาธารณสุขศาสตร์มหาบัณฑิตของมหาวิทยาลัยมหิดล จัดสรรงบประมาณสนับสนุน จัดหาสถานที่ฝึกปฏิบัติงานจริง ตั้งเป้าผลิตจำนวน 10 คนต่อปี กำหนดระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2561-2565) ส่วนมหาวิทยาลัยมหิดลจะทำการปรับปรุงหลักสูตรสาธารณสุขศาสตร์มหาบัณฑิต ทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติให้สอดคล้องกับความต้องการของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมสนับสนุนบุคลากรเพื่อเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาสำหรับให้คำแนะนำ สำหรับผู้เข้ารับการฝึกปฏิบัติทั้งในภาคปฏิบัติและภาคทฤษฎี

สำหรับหลักสูตรผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายและยุทธศาสตร์สุขภาพนี้ เป็นการพัฒนาศักยภาพของผู้รับการอบรม สามารถพัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์บนพื้นฐานของการใช้ข้อมูลสารสนเทศและฐานความรู้ได้อย่างเชี่ยวชาญ โดยวิเคราะห์ สังเคราะห์ จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพในภาพรวมและเฉพาะประเด็นได้อย่างดีเยี่ยมและมีความเป็นสากลสามารถประยุกต์เข้ากับบริบทในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที และมาตรการแก้ไขปัญหานั้นสามารถปฏิบัติได้จริง เน้นการเรียนการสอนด้านการพัฒนาสาธารณสุข ด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกันในรูปแบบการประชุมกลุ่ม