ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.แจงปี 61 ทำหน้าที่จัดซื้อยาและวัคซีนแทน สปสช. ปัดตีกลับแผนจัดซื้อวัคซีนไข้สมองอักเสบและวัคซีนไข้หวัดใหญ่ คณะทำงานฯ มอบกรมควบคุมโรคไปหาข้อมูลเพิ่ม เพื่อเคาะจำนวนจัดหา และความจำเป็นขนาดโดสที่ต้องใช้ยืนยันไม่ขัดมติ ครม.เหตุวัคซีนไม่ได้อยู่ในบัญชีนวัตกรรมไทย

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะทำงานจัดหาเวชภัณฑ์สำหรับโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเท็จจริงแนวทางการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอีและวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ปีงบประมาณ 2561 ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำข้อเสนอการบริหารเวชภัณฑ์ในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยมีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่แทนคณะกรรมการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เนื่องจาก สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระบุว่า พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ไม่ได้ให้อำนาจดำเนินการแก่ สปสช. โดยแนวทางการจัดหา กระจายยาและวัคซีน อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำข้อเสนอรูปแบบและวิธีการจัดหาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

สำหรับในเรื่องวัคซีน คณะทำงานฯ ได้เสนอแผนจัดซื้อวัคซีนทุกรายการ รวมกันวงเงินประมาณ 1,630 ล้านบาท โดยในส่วนวัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอีและวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ที่ผ่านมา สปสช.จัดหาวัคซีนตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค ทั้งขนาด 1 dose/ขวด (Single dose) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ และขนาด 4 dose/ขวด (Multiple dose) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลพบว่าหน่วยบริการส่วนใหญ่ขอเบิกวัคซีนชนิด 1 dose/ขวด (Single dose) มากกว่า เนื่องจากสะดวกในการใช้ ประกอบกับวัคซีนชนิด 4 dose/ขวด (Multiple dose) หากเปิดใช้แล้วแต่มีผู้ป่วยมารับบริการไม่ครบตามจำนวน ก็จะต้องทิ้งวัคซีนส่วนที่เหลือจากการเปิดใช้แล้ว จึงเป็นเหตุทำให้มีอัตราการสูญเสียวัคซีนเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 15-25

ดังนั้น คณะทำงานฯ จึงเสนอให้จัดหาวัคซีนชนิด 1 dose/ขวด เนื่องจากวัคซีนทั้ง 2 ชนิดเมื่อเทียบราคาต่อ Dose แล้ว ราคาใกล้เคียงกัน (เมื่อรวมอัตราการสูญเสียจากการใช้วัคซีนชนิด 4 dose/ขวด แล้ว) แต่คณะทำงานฯ บางท่านเสนอว่า อาจยังมีความจำเป็นต้องใช้ชนิด 4 dose/ขวด (Multiple dose) อยู่ และหากจัดซื้อขนาดบรรจุ 1 dose/ขวด ทั้งหมด หน่วยบริการอาจจะมีปัญหาที่จัดเก็บหรือไม่ คณะทำงานฯ จึงได้มอบให้กรมควบคุมโรคหารือกับอนุกรรมการสร้างเสริมป้องกันโรคว่า ยังมีจำเป็นต้องจัดหาวัคซีนขนาด 4 dose/ขวด (Multiple dose) อีกหรือไม่ หากจำเป็น จะต้องจัดหาในจำนวนเท่าไร และนำข้อมูลกลับมาเสนอที่ประชุมอีกครั้ง นอกจากนั้น วัคซีนขนาด 4 dose/ขวด (Multiple dose) ก็ยังไม่อยู่ในบัญชีนวัตกรรมไทยซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดซื้ออย่างน้อยร้อยละ 30 แต่อย่างใด

"คณะทำงานฯ ไม่ได้ตีกลับแผนจัดหาวัคซีนของ สปสช. และคณะทำงานฯ ยังไม่ได้มีข้อสรุปว่าจะจัดซื้อวัคซีนดังกล่าวในแต่ละขนาดจำนวนเท่าใด เพราะยังต้องรอข้อมูลเพิ่มเติม และไม่ได้ละเลยการสนับสนุนการจัดหายาที่อยู่ในบัญชีนวัตกรรมไทยหรือยาที่ผลิตภายในประเทศ หากวัคซีนที่ผลิตในประเทศรายการใดทำให้เกิดความประหยัดและความมั่นคงทางด้านยาของประเทศ คณะทำงานฯ ก็เลือกจัดหายาเหล่านั้นเช่นกัน" นพ.สมศักดิ์ กล่าว