ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“เรื่องจู๋ไม่ควรจับ เรื่องจิ๋มไม่ควรพูด เรื่องเพศศึกษาไม่ควรสอนเด็ก ตนมองว่าเรื่องนี้มันล้าสัมยไปแล้ว เราไม่ต้องกลัวหรอกว่าการสอนเรื่องเพศศึกษากับเด็กจะเป็นการชี้โพรงให้กระรอก เพราะทุกวันนี้กระรอกมันวิ่งเข้าโพรงจนโพรงมันลื่นไปหมดแล้ว”

นางมาลินี เวชสุข

จากคำกล่าวข้างต้นที่แสดงทัศนคติส่วนตัวเกี่ยวกับการสอนเรื่องเพศศึกษาให้กับวัยรุ่นยุค 4.0 ของ นางมาลินี เวชสุข ประธานศูนย์บริการอนามัยเจริญพันธุ์ชุมชน ต.ยายร้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ผู้คิดค้นนวัตกรรม “ไหกันน็อก” ป้องกันโรค ป้องกันการตั้งครรภ์ให้กับคนในชุมชน

นางมาลินี หรือ ป้าแป๋วของเด็กๆ เล่าให้ฟังว่า จากเดิมตนทำงานเป็นจิตอาสา และเป็นประธานเครือข่ายผู้หญิงที่อยู่ร่วมกับเอชไอวีภาคตะวันออก ที่ดำเนินงานด้านการให้การดูแลเพื่อนผู้หญิงที่ต้องอยู่ร่วมกับบเชื้อเอชไอวีตั้งแต่ตั้งครรภ์ ที่ รพ.ท่าใหม่ ทำให้รู้ถึงปัญหาของการตั้งครรภ์ว่า สวนหนี่งของวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ขึ้นมาเกิดจากความไม่รู้ หรือรู้แบบผิดๆ วัยรุ่นหญิงหลายคนขาดที่ปรึกษา จึงทำให้วัยรุ่นหญิงหลายคนพลาดเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา และก็ไม่มีทางออกว่า หลังจากตั้งครรภ์แล้วจะดำเนินชีวิตของตนเองอย่างไรต่อไป บางคนเลือกการทำแท้งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

จากปัญหาที่พบเจอมาข้างต้น ประกอบกับได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก J&J และมูลนิธิรักษ์ไทย ภายใต้โครงการพลังผู้หญิงที่อยู่ร่วมกับเอชไอวีกับการเข้าถึงอนามัยเจริญพันธุ์และความรุนแรงทางเพศ จึงได้ใช้บ้านของตนเองเปิดศูนย์บริการอนามัยเจริญพันธุ์ชุมชนขึ้นมา

“หลายคนมีคำถามว่า ทำไมพี่แป๋วถึงใช้บ้านของตนเองมาทำเป็นศูนย์บริการอนามัยชุมชน แทนทีจะไปตั้งที่อื่น ซึ่งพี่แป๋วมองว่า เด็กๆ วัยรุ่นคงไม่มีใครอยากจะเดินเข้าโรงพยาบาลเพื่อไปขอรับคำปรึกษา เพราะกลัวว่าคนที่ตนเองรู้จักจะมาเห็นเข้า และหากไปเปิดบริการที่อื่นเราจะต้องมีเวลาเปิด-ปิด จะไม่สะดวกกับเด็กๆ ซึ่งพี่แป๋วเองได้นำเรื่องแนวคิดนี้มาปรึกษาสามีและลูก ซึ่งทุกคนบอกว่าถ้าเป็นความสุขของพี่ก็ยินดีให้ใช้บ้านเป็นศูนย์บริการ อีทั้งพี่แป๋วมองว่า ใช้บ้านของตนเองแล้วตัวเองยังมีเวลาดูบ้าน และที่บ้านเองก็มีผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องดูแลด้วย จึงคิดว่าใช้บ้านตัวเองนี่แหละสะดวกที่สุด”

สำหรับที่มาของ “ไหกันน็อก” นางมาลินี บอกว่า มีอยู่เคสหนึ่งวัยรุ่นชายเข้ามาหาตนเองตอนดึก และบอกว่าเขากำลังจะไปมีเพศสัมพันธ์กับแฟนสาวแต่ไม่มีอุปกรณ์ในการป้องกัน ในวันนั้นทำให้ตนรู้สึกว่า จะทำอย่างไรหากเยาวชนเขาต้องการที่จะใช้ถุงยางอนามัยในช่วงเวลาที่เราไม่อยู่บ้านหรือนอนหลับไปแล้ว ได้เข้าถึงอุปกรณ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์อย่างถุงยางอนามัยได้ง่ายและสะดวก จึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้วัยรุ่นในหมู่บ้านเขารู้กันว่าถ้าใครอยากได้ถุงยางอนามัยให้มาเอาที่บ้านป้าแป๋ว จึงเกิดแนวคิดที่จะเอาถุงยางอนามัยมาใส่ในไห แล้วมาตั้งไว้ที่หน้าบ้าน ให้พ้นแสงแดด ตลอด 24 ชั่วโมง ที่โคนต้นไม้ เพื่อสะดวกต่อการนำไปใช้ในช่วงเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน หรือนอนหลับไปแล้ว เราเรียกว่า “ไหกันน็อก” เพราะมันจะป้องกันทั้งการติดโรคและการตั้งครรภ์ได้ดี

โดยมีการประชาสัมพันธ์แจกถุงยางอนามัยฟรี ใครอยากจะหยิบเท่าไหร่ก็หยิบไป แต่ช่วยลงบันทึกให้หน่อยว่า เอาไปกี่ชิ้น เพื่อจะได้เก็บไว้เป็นหลักฐานกับหน่วยงานที่เราเข้าไปขอถุงยางอนามัยว่า มีเยาวชนเอาถุงยางอนามัยของเราไปใช้เท่าไหร่ ซึ่งเป็นระบบการลงทะเบียนรับบริการด้วยตนเอง

“สิ่งที่จะสอนคือ เรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ การวางแผนครอบครัว ความรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และอีกหลายเรื่องตลอดจนให้คำปรึกษาเรื่อการตั้งครรภ์ไม่พร้อม เผยแพร่ความรู้เรื่องเพศ การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยและรับผิดชอบรวมทั้งการส่งต่อไปยังสถานบริการภาคคีเครือข่ายต่างๆ” นางมาลินี กล่าว

ผลการดำเนินงานในปี 2558 ของศูนย์บริการอนามัยเจริญพันธุ์ชุมชน มีผู้มารับบริการถุงยางอนามัย จำนวน 50 ราย ส่วนใหญ่เป็นเพศชายอายุ 13-30 ปี และให้คำปรึกษายุติการตั้งครรภ์จำนวน 2 ราย

ในปี 2559 มีผู้มารับบริการถุงยางอนามัย จำนวน 258 ราย ในจำนวนนี้มี 230 ราย ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี คิดเป็นร้อยละ 89 มีผู้มาขอคำปรึกษาท้องไม่พร้อม จำนวน 4 ราย และได้ให้คำปรึกษาและส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้คำปรึกษาเรื่องกลัวการตั้งครรภ์ 1 ราย จึงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลท่าใหม่ เพื่อฝังยาคุมกำเนิด เมื่อก่อนมีคนมาใช้บริการน้อย เพราะตนไม่ได้ติดป้ายประชาสัมพันธ์ไว้ แต่ตอนนี้พอติดป้ายบอก มีเยาวชนเดินเข้ามาขอคำปรึกษากันมากขึ้น

“ไม่กลัวว่าใครจะตำหนิว่าไปสอนให้เด็กมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น เหมือนการชี้โพรงให้กระรอก บอกได้เลยว่าถึงวันนี้ไม่มีใครชี้โพรงให้ กระรอกมันก็วิ่งเข้าโพรงจนโพรงเป็นมันกันไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องออกมาสอนให้วัยรุ่นนี้รู้จักวิธีการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและรับผิดชอบ เชื่อหรือไม่ว่า แค่การใช้ถุงยางอนามัยที่ผิดวิธีก็สามารถทำให้ผู้หญิงท้องได้ การใช้ถุงยางอนามัยก่อนมีเพศสัมพันธ์จะช่วยให้เยาวชนรอดพ้นจากการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ดีกว่าวิธีอื่นๆ” นางมาลินี กล่าวสรุป

เรื่องที่เกี่ยวข้อง