ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มติ ครม. 3 ต.ค.60 เห็นชอบอนุมัติสิทธิเกื้อกูลนับอายุราชการ กลุ่มข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข อดีตพนักงานกระทรวงสาธารณสุขแล้ว

วันนี้ (3 ตุลาคม 2560) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการพิจารณาสิทธิประโยชน์ให้พนักงานกระทรวงสาธารณสุขที่ได้รับการบรรจุเข้ารับรับราชการในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตามที่สำนักงาน ก.พ.เสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

ก.พ. ในการประชุมครั้งที่ 7/2560 เมื่อวันที่ 26 กรกาคม 2560 ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการพิจารณาสิทธิประโยชน์ให้พนักงาน สธ.ที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการใน สธ.ดังนี้

1. ผู้ที่จะได้รับการพิจารณาสิทธิประโยชน์ ได้แก่ “พนักงาน สธ.” ที่ได้รับการจ้างให้ปฏิบัติงานเต็มเวลาอย่างต่อเนื่องเสมือนพนักงานประจำใน สธ.อยู่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีจะมีมติ และได้รับการจ้างให้ปฏิบัติงานจนถึงวันก่อนได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการใน สธ. ซึ่งรวมถึงกรณีมีการเว้นช่วงการบรรจุเนื่องจากวันก่อนการบรรจุเป็นวันหยุดราชการและกรณีอื่น ๆ ที่ ก.พ.กำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่เคยได้รับการจ้างให้ปฏิบัติงานเป็นพนักงานราชการหรือลูกจ้างชั่วคราวมาก่อน จะต้องเป็นการจ้างต่อเนื่องกันทุกช่วงเวลา และในการปฏิบัติงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวจะต้องเป็นการปฏิบัติงานเต็มเวลาอย่างต่อเนื่องเสมือนพนักงานประจำเป็นเวลา 1 ปีขึ้นไป

2. การได้รับเงินเดือน

2.1 กรณีพนักงาน สธ.ที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ได้รับการปรับเงินเดือนเป็นอัตราใหม่ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้

(1) กรณีพนักงาน สธ.ที่ได้รับการจ้างให้ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับปริญญาและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการให้ได้รับเงินเดือนโดยนำอัตราเงินเดือนตามคุณวุฒิที่ ก.พ.กำหนด เป็นอัตราเงินเดือนเริ่มต้นแล้วบวกกับ 1) ผลรวมของจำนวนเงินที่ได้เลื่อนขณะเป็นพนักงาน สธ. 2) ผลรวมของจำนวนเงินเดือนที่ได้เลื่อนเงินเดือนขณะเป็นข้าราชการ และ 3) จำนวนเงินค่าตอบแทนพิเศษที่คำนวณได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2559 (ถ้ามี)

(2) กรณีพนักงาน สธ.ที่ได้รับการจ้างให้ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิต่ำกว่าปริญญาและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไป ให้ได้รับเงินเดือนโดยนำอัตราเงินเดือนตามคุณวุฒิที่ ก.พ.กำหนด เป็นอัตราเงินเดือนเริ่มต้นแล้วบวกกับ 1) ผลรวมของจำนวนเงินที่ได้เลื่อนขณะเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข 2) ผลรวมของจำนวนเงินเดือนที่ได้เลื่อนเงินเดือนขณะเป็นข้าราชการ และ 3) จำนวนเงินค่าตอบแทนพิเศษที่คำนวณได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2559 (ถ้ามี)

(3) กรณีพนักงาน สธ.ตามข้อ (1) หรือข้อ (2) ข้างต้น ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2557 เมื่อคำนวณอัตราเงินเดือนตามที่กำหนดในข้อ (1) หรือ ข้อ (2) แล้วแต่กรณีแล้ว ให้นำจำนวนเงินเดือนที่ได้รับเพิ่มขึ้น ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2557 มาบวกรวมเพิ่มเติมด้วย

ทั้งนี้ หากอัตราเงินเดือนที่คำนวณได้ต่ำกว่าอัตราเงินเดือนที่ได้รับอยู่เดิม ให้ได้รับเงินเดือนในอัตราเดิมต่อไป

2.2 กรณีพนักงาน สธ.ที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป ให้ได้รับเงินเดือนในวันที่บรรจุเข้ารับราชการ ดังนี้

(1) กรณีพนักงาน สธ.ที่ได้รับการจ้างให้ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับปริญญาและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการให้ได้รับเงินเดือนโดยนำอัตราเงินเดือนตามคุณวุฒิที่ ก.พ.กำหนดไว้ ณ วันที่ผู้นั้นบรรจุเข้ารับราชการเป็นอัตราเงินเดือนเริ่มต้น แล้วบวกกับผลรวมของจำนวนเงินที่ได้เลื่อนขณะเป็นพนักงาน สธ.ในตำแหน่งนั้น

(2) กรณีพนักงาน สธ.ที่ได้รับการจ้างให้ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิต่ำกว่าปริญญาและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไปให้ได้รับเงินเดือนโดยนำอัตราเงินเดือนตามวุฒิที่ ก.พ.กำหนดไว้ ณ วันที่ผู้นั้นบรรจุเข้ารับราชการเป็นอัตราเงินเดือนเริ่มต้น แล้วบวกกับผลรวมของจำนวนเงินที่ได้เลื่อนขณะเป็นพนักงาน สธ.ในตำแหน่งนั้น

ทั้งนี้ เงินเดือนที่ได้รับในวันที่บรรจุเข้ารับราชการจะต้องไม่เกินเงินเดือนขั้นสูงของตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง

3. กรณีอื่นนอกเหนือจากที่ได้กำหนดไว้ กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และ วิธีการนี้ หรือกรณีอื่นนอกเหนือจากที่ได้กำหนดไว้ ให้นำเสนอ ก.พ.พิจารณา

4. เงื่อนไข

(1) ผู้ที่ได้รับการพิจารณาสิทธิประโยชน์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการข้างต้น จะต้องปฏิบัติราชการในส่วนราชการนั้นเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยห้ามโอนไปส่วนราชการอื่นเว้นแต่กรณีลาออก

(2) กรณีที่ส่วนราชการได้รับอนุมัติจัดสรรอัตรากำลังเพิ่ม และได้บรรจุพนักงาน สธ.ในตำแหน่งที่ได้รับจัดสรรตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขนี้แล้วให้ยุบเลิกตำแหน่งของพนักงาน สธ.ที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวเรียกร้องขอให้บรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการในภายหลัง

(3) สธ. ต้องประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่บุคลากรใน สธ. เกี่ยวกับข้อกฎหมายและหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการพลเรือนสามัญ พนักงานราชการ และพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เกิดการยอมรับในเงื่อนไขสภาพการจ้างตั้งแต่เริ่มปฏิบัติงานใน สธ.