ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จัดงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากพระราชดำริ “ดาวเรืองเบ่งบาน สืบสานปณิธานต่อที่พ่อทำ” เผยผลจากกระแสพระราชดำรัส สปสช.น้อมนำดำเนินโครงการต่างๆ ช่วยให้ผู้ป่วยทั่วประเทศเข้าถึงการรักษา พร้อมสืบสานดูแลสุขภาพประชาชนต่อเนื่อง

ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ศูนย์ราชการฯ – เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2560 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้จัดงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากพระราชดำริ “ดาวเรืองเบ่งบาน สืบสานปณิธานต่อที่พ่อทำ” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดย นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวสดุดีพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมรับมอบดอกดาวเรืองตามโครงการ “ดอกดาวเรืองบ่มจากบ้านมาบานที่ สปสช.” จากคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สปสช.ที่ได้ร่วมปลูกในการแสดงความจงรักภักดี เพื่อให้เบ่งบานในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมร้องเพลง “ต้นไม้ของพ่อ” โดยพร้อมเพรียงกัน

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า นับเป็นวันที่ชาว สปสช.ได้ร่วมกันเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ ๙ นอกจากการถวายต้นดาวเรืองต้นไม้ประจำพระองค์ที่ได้ร่วมปลูกแล้ว ยังได้ร่วมทบทวนพระราชกรณียกิจที่พระองค์ได้ทรงประโยชน์ให้กับปวงชนชาวไทย ทั้งพระราชดำรัสที่ตรัสไว้ในวันครองราชย์ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ตลอดระยะเวลาการครองราชย์พระองค์ได้พิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ ซึ่งตนเองในระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง สสจ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังได้มีโอกาสถวายงานใกล้ชิดและได้เห็นพระจริยวัตรที่งดงามของพระองค์ท่าน

นอกจากพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ แล้ว ในด้านสุขภาพพระองค์ทรงเป็นผู้มองการณ์ไกล จากกระแสพระราชดำรัสที่ว่า "ถ้าคนเรามีสุขภาพเสื่อมโทรม ก็จะไม่สามารถพัฒนาชาติได้ เพราะทรัพยากรที่สำคัญของประเทศชาติ ก็คือพลเมืองนั่นเอง" สะท้อนให้เห็นว่า ทรงเล็งเห็นกำลังหลักของชาติบ้านเมืองคือประชาชนชาวไทย หากประชาชนไม่มีพละกำลังหรือมีความเสื่อมโทรมทางด้านสุขภาพ ประเทศชาติก็อาจอ่อนกำลังไปด้วยได้ ซึ่งได้นำมาสู่ “โครงการพระราชทานด้านสาธารณสุข” อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการแพทย์หลวงเคลื่อนที่พระราชทาน โครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน โครงการหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่พระราชทาน โครงการแพทย์พิเศษตามพระราชประสงค์ และโครงการอบรมหมู่บ้านในพระราชประสงค์ เป็นต้น ส่งผลคุณูปการต่อพสกนิกรชาวไทย

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทและภารกิจสำคัญในการดูแลสุขภาพประชาชนให้เข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขอย่างครอบคลุมและทั่วถึง ที่ผ่านมาได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสร่วมกับหน่วยงาน เครือข่ายภาคีองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการผ่านโครงการเฉลิมพระเกียรติเพื่อแก้ปัญหาสาธารณสุขประเทศ ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากเข้าถึงการรักษาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการผ่าตัดหัวใจ 8,000 ดวง โครงการผ่าตัดตาต้อกระจก 80,000 ราย โครงการผ่าตัดเปลี่ยนไต 200 ราย โครงการบริจาคอวัยวะ 200 ราย โครงการปลูกถ่ายไขกระดูก 80 ราย โครงการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา 400 ราย โครงการจัดตั้งศูนย์การฉายรังสีด้วยเครื่องเร่งอนุภาคให้ศูนย์วชิราลงกรณ์ ธัญบุรี โครงการฟันเทียมพระราชทาน และโครงการดวงตาสดใสเทิดไท้ 84 พรรษามหาราชินี เป็นต้น

“จากโครงการต่างๆ ที่ได้ดำเนินตามกระแสพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ ๙ จนมาถึงปัจจุบัน ไม่เพียงส่งผลให้เกิดการขยายบริการเพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนที่เจ็บป่วยและจำเป็นที่ต้องได้รับการดูแลสามารถเข้าถึงการรักษาจำนวนมาก แต่ยังทำให้เกิดการพัฒนาระบบการบริการสุขภาพและสาธารณสุขของประเทศ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวไทยอย่างหาเปรียบมิได้ ซึ่งชาว สปสช.จะสืบสานปณิธานของพระองค์ต่อไป” เลขาธิการ สปสช. กล่าว