ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เดินหน้าประชาสัมพันธ์เมดิคัลฮับ เจาะตลาดสู่บังกลาเทศในการรับรักษาพยาบาล การบริการเพื่อสุขภาพที่เป็นอัตลักษณ์ความเป็นไทย เช่น นวดไทย สปาไทย และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากสมุนไพรไทย ชูความพร้อมด้านสถานพยาบาล เทคโนโลยี ราคาและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ในการสร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างรายได้เข้าประเทศ

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กรม สบส.ได้เร่งขับเคลื่อนนโยบายให้ประเทศเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) โดยเข้าร่วมโครงการเผยแพร่บริการสุขภาพที่มีคุณภาพและมาตรฐานของประเทศไทย ภายใต้งานเทศกาลไทยในบังกลาเทศ สานสัมพันธ์การแพทย์และการศึกษา ครั้งที่ 1 ณ กรุงธากา สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลด้านเมดิคัลฮับของไทยให้ชาวบังกลาเทศรับทราบถึงความพร้อมด้านบริการทางแพทย์ แสดงจุดแข็ง 4 ด้าน คือ

1.ความพร้อมของสถานพยาบาลของไทยที่ผ่านคุณภาพในระดับสากลเจซีไอ (JCI) จำนวน 52 แห่งซึ่งมากที่สุดในอาเซียน

2.เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ใช้เวลาในการรักษาสั้นหายเร็ว

3.ค่ารักษาพยาบาลราคาสมเหตุสมผล

และ 4.บุคลากรมีความเชี่ยวชาญในแต่สาขาสูง ทั้งการรักษาพยาบาลและเสริมความงาม เป็นต้น ในส่วนของการให้บริการเพื่อสุขภาพของไทย เช่น นวดไทย สปาไทย และผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพ ที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของไทยที่มีมาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมาย

นพ.ธงชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้แล้วกระทรวงสาธารณสุขยังได้ร่วมมือกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยบูรณาการทำงานร่วมกันในการบริการและขับเคลื่อนโยบายการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้าน Medical and Wellness Tourism ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน มีจุดมุ่งหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพในระดับโลก พร้อมผลักดันศักยภาพด้านบริการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของประเทศไทยสู่สายตานานาชาติ

ด้านนางเสาวภา จงกิตติพงศ์ ผู้อำนวยการกองสุขภาพระหว่างประเทศ กล่าวต่อว่า จากการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว กรม สบส.ได้ออกบูธนิทรรศการ และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ร่วมกับภาคเอกชน ให้ข้อมูลศักยภาพการให้บริการทางการแพทย์และสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานของไทย การบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่มีชื่อเสียงด้านการนวดไทยและกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผลจากการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ พบว่าชาวบังกลาเทศและหน่วยงานต่างๆ ได้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก