ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯ จัดงานวันเด็กชูแนวคิด “รู้รอดปลอดภัย เด็กไทย 4.0” หวังให้เด็กไทยมีความรู้ ดูแลตนเอง เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรง ตอบรับกระแสสังคมผู้สูงอายุในอนาคต

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2561 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ นายกสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯ ได้ร่วมกับ รพ.ราชวิถี จัดงานวันเด็กแห่งชาติภายใต้แนวคิด “รู้รอดปลอดภัย เด็กไทย 4.0” ขึ้นมา ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เด็กๆ จะได้รับความรู้ในการดูแลสุขภาพของตนเองอย่างไรให้ปลอดภัยจากโรค และรู้จักเอาตัวเองให้รอดปลอดภัยจากสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ได้ รวมทั้งสามารถแจ้งเหตุเรียกขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านเลขหมายฉุกเฉิน 1669 ได้

“เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ เด็กๆ ในวันนี้เขาก็จะเป็นผู้สูงอายุในอนาคต ทั้งนี้กิจกรรมที่จัดทำในวันนี้ จะสอนให้เด็กๆ รู้จักที่จะดูแลและรักษาสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวให้ปลอดภัยจากการเจ็บป่วยฉุกเฉิน เรื่องของวิธีการเอาตัวรอดให้ปลอดภัยจากโรคและสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งเรื่องต่างๆ เหล่านี้ ผู้ใหญ่ควรจะปลูกฝังสิ่งดีๆ เหล่านี้ เพื่อในอนาคต เด็กๆ จะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรง ปลอดจากโรค เมื่อเป็นผู้สูงอายุก็จะเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดี ไม่เป็นภาระแก่สังคม” นพ.สันต์ กล่าว

ด้าน พญ.ณธิดา สุเมธโชติเมธา กลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน รพ.ราชวิถี กล่าวว่า รพ.ราชวิถีได้จัดกิจกรรมวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาลมาทุกปี แต่ในปีนี้ทาง รพ.ราชวิถีได้เชิญสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทยมาเข้าร่วมในการจัดกิจกรรมในปีนี้ สืบเนื่องจากว่า ในการจัดกิจกรรมเข้าค่ายรู้รอดปลอดภัยของสมาคมเวชศาสตร์ฯที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเยาวชนและโรงเรียน ทาง รพ.ราชวิถีจึงได้นำกิจกรรมที่เคยจัดในค่ายฯมาจัดแสดงและให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนที่มาร่วมงานในวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยหวังว่า เด็กไทยในยุค 4.0 จะต้องรู้จักวิธีเอาตัวรอดได้

ส่วนกิจกรรมที่ในวันนี้คือ กิจกรรมถาม-ตอบ, เล่นเกม ซึ่งเด็กๆ ที่มาร่วมงาน รวมทั้งผู้ปกครองจะได้รับความรู้ติดตัวกลับไป เช่น ทำไมถึงต้องล้างมือและวิธีการล้างมือที่ถูกต้อง การประเมินความเสี่ยงในสถานการณ์ต่างๆ วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้อง การแจกของรางวัลต่างๆ นอกจากนี้ ความพิเศษของปีนี้คือ เด็กๆ ได้เรียนรู้บนรถฉุกเฉิน เกี่ยวกับการโทรแจ้งเหตุและการให้ทางรถฉุกเฉิน เป็นต้น