ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายกฯ แจงระเบียบคลังเพื่อให้ใช้งบประมาณคุ้มค่า ไม่สิ้นเปลืองมากเกินไป จนสะสมงบประมาณซึ่งอาจจะเป็นภาระในอนาคต ระบุปัญหาอาจเกิดจากความไม่เข้าใจในกฎระเบียบที่ออกมาโดยกรมบัญชีกลาง หากจำเป็นก็ปรับแก้ไขได้

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 ณ ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีกลุ่มเครือข่ายทางการแพทย์เรียกร้องกระทรวงการคลัง ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังห้ามจ้างและขึ้นเงินเดือนลูกจ้างที่จ้างจากเงินนอกงบประมาณว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความไม่เข้าใจในกฎระเบียบที่ออกมาโดยกรมบัญชีกลาง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วกฎระเบียบดังกล่าวออกมาเพื่อให้มีความครอบคลุม ในส่วนของการใช้จ่ายงบประมาณในด้านต่าง ๆ ต้องเกิดความคุ้มค่า ไม่ซ้ำซ้อน และประหยัด ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ผู้เกี่ยวข้องได้มีการหารือกันว่า การใช้จ่ายงบประมาณจำเป็นต้องมีแผนงานและรายละเอียดให้ชัดเจน ในส่วนการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณก็มีความสำคัญ เพราะมีการนำมาใช้ในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาโรงพยาบาล การรักษาสภาพเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ การดูแลรักษาพยาบาลประชาชนตามหลักประกันสุขภาพ การจ้างลูกจ้างหรือพนักงานในสาขาที่มีความขาดแคลน ซึ่งจะต้องดูสัดส่วนการใช้งบประมาณให้มีความเหมาะสม

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ส่วนตัวมีความห่วงใยในมาตรฐานการบริการของสถานพยาบาล รวมทั้งขวัญและกำลังใจของบุคลากรทางการแพทย์ ในขณะนี้ ได้เร่งรัดให้มีการสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชน เน้นเรื่องการป้องกัน รวมทั้งการสร้างการรับรู้ในด้านการรักษาพยาบาล การใช้ระบบออนไลน์ การใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเตียง

นอกจากนี้ ยังมีการจัดทีมแพทย์พยาบาลลงพื้นที่ชุมชน การใช้ระบบออนไลน์ในการให้คำปรึกษารักษาพยาบาลเบื้องต้น สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้สูงก็มีเทคโนโลยีหุ่นยนต์เพื่อการดูแลคนไข้ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นทางเลือกให้กับประชาชน ซึ่งรัฐบาลมีความคาดหวังว่าจะช่วยให้การดูแลประชาชนในทุกด้านดีขึ้น โดยต้องคำนึงถึงการใช้งบประมาณที่คุ้มค่ามากที่สุด ไม่สิ้นเปลืองมากเกินไป จนสะสมงบประมาณซึ่งอาจจะเป็นภาระในอนาคต

นอกจากนี้ ได้มอบหมายกระทรวงการคลังร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังความคิดเห็น เร่งหามาตรการแก้ไขและบรรเทาปัญหาอันเกิดจากกฎระเบียบดังกล่าว หากมีความจำเป็นต้องปรับแก้ก็ให้พิจารณาตามความเหมาะสม