ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ เผยหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเกิดกับคนวัยหนุ่มสาวได้หากมีพฤติกรรมยกของหนักด้วยท่าที่ไม่เหมาะสม นั่งหรือยืนทำงานไม่ถูกท่า ส่งผลต่อความเสื่อมของหมอนรองกระดูกให้ไวขึ้น เสี่ยงต่อโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

นพ.ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า หมอนรองกระดูก คือ เนื้อเยื่อที่มีลักษณะด้านนอกคล้ายยางรถยนต์ ส่วนด้านในจะมีลักษณะคล้ายวุ้นอยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อตั้งแต่คอ อก จนถึงเอวทำหน้าที่เป็นข้อต่อรองรับการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลัง และมีหน้าที่ช่วยรับแรงกระแทกเมื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ยืน กระโดด บิดตัว และเพิ่มความยืดหยุ่นของการเคลื่อนไหว

ในกรณีที่เกิดความเสื่อมของหมอนรองกระดูกตามอายุและการใช้งานจะทำให้รับน้ำหนักและยืดหยุ่นได้น้อยลงเกิดการปลิ้นและโป่งขึ้นของหมอนรองกระดูก จนไปกดทับเส้นประสาทที่อยู่โดยรอบแนวกระดูกไขสันหลัง เรียกว่า ภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

โดยปกติแล้วหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมักเกิดกับกลุ่มคนอายุมากแต่อาจเกิดในวัยหนุ่มสาวได้หากมีกิจกรรมที่ส่งผลต่อความเสื่อมของหมอนรองกระดูกที่ไวขึ้น เช่น ยกของหนักด้วยท่าที่ไม่เหมาะสม นั่งหรือยืนทำงานที่ไม่ถูกท่า ได้รับอุบัติเหตุหรือกระทบกระแทกรุนแรงที่กระดูกสันหลัง ออกกำลังกายหักโหม และน้ำหนักตัวที่มากเกินไป

นพ.พงษ์วัฒน์ พลพงษ์ นายแพทย์ชำนาญการด้านเวชกรรม สาขาประสาทศัลยศาสตร์ สถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทในผู้ป่วยแต่ละรายอาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ถูกกดทับ โดยถ้ากดทับที่เส้นประสาทบริเวณคอจะมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดร้าวลงไปแขนขา ข้างใดข้างหนึ่ง ชาแขน ล้าขา หรืออ่อนแรงแขนขา แต่ถ้าเกิดการกดทับเส้นประสาทส่วนเอวจะมีอาการปวดบริเวณเอว ร้าวลงสะโพกและขากล้ามเนื้อขาอ่อนแรง กระดกข้อเท้าหรือนิ้วโป้งเท้าไม่ขึ้น หากมีอาการรุนแรงจะชาไปรอบๆ ก้น และขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะลำบาก

สำหรับแนวทางการรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการที่เป็นอยู่ โดยเริ่มจากพักการใช้งาน หลีกเลี่ยงการทำงานหนักหรือกิจกรรมที่ต้องใช้งานส่วนคอและเอวรุนแรง ร่วมกับการทานยา เพื่อลดอาการอักเสบ ทำกายภาพบำบัด เพื่อให้การเคลื่อนไหวของร่างกายดีขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาการพักฟื้นประมาณ 1-3 เดือน ในกรณีที่มีอาการรุนแรง อาจต้องผ่าตัดซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์

ส่วนการป้องกันหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท คือ ไม่ยกของหนัก หรือยกของในท่าเดิม ๆ มากเกินไป ปรับเปลี่ยนอิริยาบถในการทำงานทุก ๆ 2 – 3 ชั่วโมง หมั่นออกกำลังกาย ทำกายบริหารเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นคอหลังและหน้าท้อง ไม่ควรมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ควรงดสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่จะทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงหมอนรองกระดูกลดลง และเกิดการเสื่อมเร็วขึ้น และที่สำคัญหากมีอาการผิดปกติควรรีบมาพบแพทย์