ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมว.สาธารณสุข ให้โรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัด ใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาระบบบริการ ระบบบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพบริการประชาชน สะดวก รวดเร็ว ลดแออัด ตั้งเป้าหมายในปี 2562 คลินิกหมอครอบครัวทุกแห่งมีการใช้แอปพลิเคชันสำหรับคลินิกหมอครอบครัว และเขตสุขภาพมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินงานอย่างน้อยเขตละ 1 จังหวัด

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงนโยบายปฏิรูประบบสาธารณสุข ด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศด้านสุขภาพว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายให้โรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัด ปรับเปลี่ยนระบบการทำงานให้เข้าสู่ระบบดิจิทัล นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยพัฒนาระบบบริการและระบบบริหารจัดการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพ รวดเร็ว ปลอดภัย ทั่วถึง เท่าเทียม เจ้าหน้าที่มีระบบปฏิบัติงานที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ไร้รอยต่อ ผู้บริหารมีระบบสารสนเทศสุขภาพที่มีคุณภาพ ทันสถานการณ์ มุ่งสู่การเป็น MOPH 4.0 ตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงสาธารณสุข

นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า การนำเทคโนโลยีด้านดิจิทัลมาใช้นั้น มุ่งเน้นพัฒนาระบบบริการให้ครอบคลุมระบบสุขภาพชุมชน เช่น การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligent) มาช่วยในการตรวจวินิจฉัย และการพัฒนาให้เป็นสมาร์ท ฮอสปิตัล (Smart Hospital) ที่มีการนำเทคโนโลยีด้านสุขภาพ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาเพิ่มความสะดวกในระบบบริการ ลดความแออัด เช่นระบบคิว (Queue)

ขณะเดียวกัน ได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูล (Big Data Analysis) ที่เน้นใน 3 โรคหลัก คือ ตา ไต หัวใจ พร้อมทั้งพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับคลินิกหมอครอบครัว เพิ่มความสะดวกในการเก็บข้อมูลสุขภาพประชาชน นำเข้าระบบข้อมูลสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information System Gateway: HIS Gateway) ไว้ในระบบ Cloud เพื่อง่ายต่อการดึงข้อมูลมาใช้ในการกำหนดทิศทางและนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าหมายในปี 2562 คลินิกหมอครอบครัวทุกแห่งมีการใช้แอปพลิเคชันสำหรับคลินิกหมอครอบครัว และเขตสุขภาพมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินงานอย่างน้อยเขตละ 1 จังหวัด