ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

พาณิชย์เร่งหารือ สธ.หาแนวทางแก้ไขปัญหาค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนสูงเกินจริง เตรียมผลักดันให้แสดงราคาในเว็บไซต์ ให้ประชาชนตรวจสอบก่อนใช้บริการ ส่วนหากจะให้พาณิชย์กำหนดให้ค่ายาและค่ารักษาเป็นสินค้าและบริการควบคุม ต้องหารือกับ สธ.ก่อนเสนอ กกร.และ ครม.ต่อไป

ทพ.ประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน

ทพ.ประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากกรณีปัญหาเรื่องค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนสูงเกินจริง กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ขอชี้แจงว่า ปัจจุบันค่ารักษาพยาบาลไม่ได้กำหนดเป็นบริการควบคุมตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 แต่ได้มีมาตรการกำกับดูแล คือให้ปิดป้ายแสดงค่ารักษาพยาบาลไว้ในที่เปิดเผยและชัดเจน หรือให้จัดทำเป็นเอกสารหรือ Website ของโรงพยาบาล เพื่อให้ผู้ใช้บริการ สามารถตรวจสอบอัตราค่ายาและค่าบริการก่อนการตัดสินใจใช้บริการ

ด้านกระทรวงสาธารณสุขมี พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 โดยการประกอบกิจการสถานพยาบาลและการดำเนินการสถานพยาบาล มาตรา 32 (3) ผู้รับอนุญาตต้องแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วยที่สถานพยาบาลต้องแสดงตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง โดยกำหนดโทษ มาตรา 59 ผู้รับอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 32 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลจะมีการประมาณการอัตราค่าบริการเบื้องต้น แจ้งให้ผู้รับการรักษาทราบก่อน

องอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหาค่ารักษาพยาบาลแพงได้มีคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาค่ารักษาพยาบาลราคาแพง และคณะกรรมการดำเนินการแก้ไขปัญหาค่ารักษาพยาบาลราคาแพงของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและดำเนินการแก้ไขปัญหาค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน โดยขณะนี้กรมการค้าภายในได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้มีการบูรณาการงานร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้มีการประชุมหารือพิจารณาแนวทางการกำกับดูแลค่ารักษาพยาบาลแล้ว

ทพ.ประโยชน์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นกรมการค้าภายในได้มีการตรวจสอบค่ารักษาพยาบาลตามโรงพยาบาลเอกชน ในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 62 แห่ง ซึ่งในวันนี้ได้กำหนดให้มีการประชุมหารือการดำเนินการกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อพิจารณาข้อมูลและแนวทางการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้การพิจารณาราคายาและอัตราค่ารักษาพยาบาลที่เหมาะสมควรให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลค่ายาและค่ารักษาพยาบาลโดยตรง รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขมีการแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการเพื่อกำกับดูแลอยู่แล้ว

ในเบื้องต้นกระทรวงพาณิชย์ จะทำให้ราคาค่ารักษาพยาบาลมีความโปร่งใส แข่งขันกันในโรงพยาบาลเอกชนมากขึ้น ให้ประชาชนเป็นผู้เลือก โดยให้ประชาชนรู้และสามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะราคาค่ารักษาพยาบาลได้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต เพื่อลดความสงสัยและโต้แย้ง

องอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขั้นต่อไปหากจะให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดให้ค่ายาและค่ารักษาพยาบาลเป็นสินค้าและบริการควบคุม โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กระทรวงพาณิชย์จะทำการหารือกับกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำข้อมูลหลักเกณฑ์ เหตุผล และเป็นผู้พิจารณาราคายาและอัตราค่ารักษาพยาบาลที่เหมาะสมเช่นเดียวกับสินค้าควบคุมอื่นๆ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซหุงต้ม ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำตาลทราย เพื่อนำเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณากำหนดเป็นสินค้าและบริการควบคุมที่มีหน่วยงานที่กำกับดูแลโดยตรงเป็นผู้พิจารณากำหนดและเสนอมายัง กกร. เพื่อดำเนินการต่อไป

เรื่องที่เกี่ยวข้อง