ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สภาการสาธารณสุขชุมชน (สธช.) เห็นชอบร่างเกณฑ์การตัดสินผลการสอบที่มีคุณลักษณะทางวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนเทียบเคียงมาตรฐานความรู้อื่นของแต่ละกลุ่มวิชา โดยพิจารณาจากวุฒิการศึกษาด้านการสาธารณสุข นับแต่ก่อนจบปริญญาตรี และปริญญาตรี รวมประสบการณ์ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข (ถ้ามี) เพื่อเทียบให้เป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การตัดสินผลการสอบความรู้เพื่อขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ

ดร.ไพศาล บางชวด นายกสภาการสาธารณสุขชุมชน

ดร.ไพศาล บางชวด นายกสภาการสาธารณสุขชุมชน เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการสอบเพื่อดำเนินการจัดสอบความรู้ รวบรวมและจัดทำคุณลักษณะทางวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนอื่น ๆ ที่บ่งบอกถึงการเพิ่มพูนความรู้ สมรรถนะ ทักษะและประสบการณ์ที่เกี่ยวเนี่องกับขอบเขตของการกระทำทางวิชาชีพของสมาชิกสภาการสาธารณสุขชุมชน เพื่อจัดทำหลักเกณฑ์เทียบมาตรฐานความรู้อื่นและใช้เป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผลการสอบความรู้เพื่อการขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน ให้สอดคล้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์และข้อบังคับสภาการสาธารณสุขชุมชนว่าด้วยการสอบความรู้เพื่อขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ. 2561

ดร.ไพศาล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้คณะกรรมการสภาการสาธารณสุขชุมชนได้มีมติรับรองหลักเกณฑ์เทียบเคียงมาตรฐานความรู้อื่น โดยการอนุมานจากการมีประสบการณ์บนพื้นฐานของระยะเวลาของการจบการศึกษาของสมาชิกสภาผู้เข้าสอบ โดยเริ่มนับระยะเวลาในการเทียบมาตรฐานความรู้อื่นทางวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน ตั้งแต่จบการศึกษาขั้นก่อนปริญญาตรีด้านสาธารณสุข ได้แก่ ประกาศนียบัตร อนุปริญญาฯ และปริญญาตรี หรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาตรีด้านสาธารณสุข ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณวุฒิของสมาชิกผู้เข้าสอบแต่ละบุคคล

นอกจากนี้ คณะกรรมการ สธช.ยังได้กำหนดให้มีการนับระยะเวลาการมีประสบการณ์การปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขบนพื้นฐานของการจบการศึกษาของสมาชิกผู้เข้าสอบเพื่อเทียบมาตรฐานความรู้อื่น ตั้งแต่เริ่มทำงานแล้ว 6 เดือนขึ้นไป โดยถือเอาวันที่ 24 พฤศจิกายน 2561 เป็นวันสุดท้ายของการนับระยะเวลาการมีประสบการณ์การปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข สำหรับรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมมอบให้คณะอนุกรรมการสอบเพื่อดำเนินการจัดสอบความรู้ไปออกประกาศสภาการสาธารณสุขชุมชนเพื่อดำเนินการจัดสอบความรู้ ซึ่งจะจัดสอบในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2561 นี้ โดยทำสัญญาตกลงจ้างมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นหน่วยดูแลจัดการสอบในเขต/พื้นที่ทั้งหมด 13 เขต ในศูนย์จัดสอบ รวม 14 โรงเรียน

1. กรุงเทพมหานคร โรงเรียนสารวิทยา 2. พระนครศรีอยุธยา โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย 3. ชลบุรี โรงเรียนชลกัลยานุกูล 4. นครราชสีมา โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย 5. อุบลราชธานี โรงเรียนนารีนุกูล 6. ขอนแก่น โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 7. อุดรธานี โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล 8. เชียงใหม่ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย 9. พิษณุโลก โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี 10. นครสวรรค์ โรงเรียนสตรีนครสวรรค์ 11. ราชบุรี โรงเรียนเบญจมราชูทิศ 12. สุราษฎร์ธานี โรงเรียนสุราษฎร์ธานี ส่วนศูนย์จัดสอบเขตที่ 13 สงขลา มี 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนมหาวชิราวุธ และโรงเรียนวรนารีเฉลิม

ดร.ไพศาล กล่าวว่า ขอให้สมาชิกผู้เข้าสอบทุกท่านดำเนินการกรอกข้อมูลส่วนบุคคล วุฒิการศึกษาด้านการสาธารณสุขทั้งก่อนปริญญาตรี ประกาศนียบัตร อนุปริญญาฯ ปริญญาตรีหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาตรี ให้ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อประโยชน์และปกป้องสิทธิของสมาชิกผู้เข้าสอบของตนเอง ทั้งนี้ หลังจากที่ผ่านการจัดสอบความรู้ทางวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนไปแล้ว สภาการสาธารณสุขชุมชนจะประกาศผลสอบของสมาชิกผู้เข้าสอบ วันที่ 4 มกราคม 2562 เป็นไปตามประกาศกำหนดการสอบความรู้ฯ พร้อมทั้งได้เตรียมการมอบให้คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อกรณีที่สมาชิกผู้เข้าสอบความรู้สอบผ่าน ซึ่งจะต้องดำเนินการขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน กรณีสมาชิกผู้เข้าสอบความรู้ไม่ผ่านในกลุ่มวิชาใด ให้มีสิทธิสมัครสอบเฉพาะในกลุ่มวิชาที่สอบไม่ผ่าน ภายในเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ประกาศผลสอบความรู้ในครั้งแรกนี้