ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แพทย์อินเดียมากกว่าแสนคนทั่วประเทศรวมตัวกันสไตร์คหยุดงาน เรียกร้องความปลอดภัยในโรงพยาบาลจากรัฐบาล หลังเกิดเหตุญาติผู้ป่วยรุมทำร้ายแพทย์จบใหม่บาดเจ็บสาหัสถึงขั้นต้องทำการผ่าตัดเปิดกะโหลก

ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน แพทย์อินเดียประกาศรวมตัวกันหยุดงานในวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุการณ์ญาติผู้ป่วยของนาย Mohammed Sayeed วัย 75 ปี ซึ่งเสียชีวิตในโรงพยาบาลประจำเมือง Kolkata ซึ่งเป็นเมืองหลวงของ West Bengal เข้าประทุษร้ายแพทย์จบใหม่ที่ชื่อว่า Paribaha Mukhopadhyay จนบาดเจ็บสาหัส

สำนักข่าว The Guardian บอกเล่าข้อมูลจากพยานในที่เกิดเหตุว่า แพทย์คนดังกล่าวนั้นเพียงแค่เดินอยู่บริเวณทางเดินของโรงพยาบาลและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการรักษานาย Mohammed Sayeed แต่กลับถูกญาติที่อยู่ในอารมณ์โกรธเคืองเข้าทำร้าย

กลายเป็นชนวนที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศก่อให้แพทย์ทุกคนรวมตัวกันหยุดงานในวันจันทร์ที่ผ่านมา

“เหตุการณ์ใน Kolkata เป็นเพียงสถานการณ์ที่ความรุนแรงเริ่มเกิดขึ้น แต่เรื่องแบบนี้มีมาอย่างยาวนาน เรา (แพทย์ทุกคน) มีสิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยเช่นพลเมืองทั่วไป ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อพวกเราถือเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ในทุกสังคม” Dr. Rajan Sharma ประธานจากการเลือกตั้งของสมาคมแพทย์แห่งอินเดีย (Indian Medical Association: IMA) กล่าวกับสำนักข่าว The Guardian

ด้านสมาคมแพทย์แห่งอินเดียเปิดเผยรายงานว่า 12% ของแพทย์ทั่วประเทศเคยรายงานแจ้งถูกทำร้ายร่างกายจากผู้ป่วยและญาติที่เกี่ยวข้อง และมากถึง 75% เคยถูกพวกเขาเหล่านั้นใช้ถ้อยคำรุนแรงใส่

สอดคล้องกับข้อมูลจากสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์แห่งอินเดีย (India Institute of Medical Sciences: AIIMS) ในกรุงนิวเดลี ที่เปิดเผยว่า แพทย์เริ่มหวาดกลัวจนสมาคมแพทย์ประจำท้องถิ่นเริ่มสอนการป้องกันตัวตั้งแต่ปี 2017 ที่ผ่านมา

“นี่ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง เราไม่ได้ถูกเทรนด์มาเพื่อเป็นทหาร เราเทรนด์เพราะต้องการรักษาชีวิตของผู้ป่วย” Sharma อธิบาย

อย่างไรก็ดี ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากจำนวนประชากรอินเดียที่เพิ่มมากขึ้น สวนทางกับจำนวนแพทย์ทั่วประเทศที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการ หรือคิดเป็นแพทย์ 1 คน ต่อ ประชากรจำนวน 11,000 คน ซึ่งตามเกณฑ์พื้นฐานแแล้วควรเป็น แพทย์ 1 คน ต่อ ประชากรจำนวน 1,000 คน

ด้วยเหตุดังกล่าว ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานและสวัสดิการสาธารณสุขที่ไม่เอื้ออำนวยต่อประชาชน กล่าวคือ หากอยู่อาศัยในชนบและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐใกล้ที่อยู่อาศัย ต้องใช้เวลามากถึง 2 วันในการเดินทาง ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่มีราคาสูง

ส่งผลให้ประชาชนเกิดความไม่พึงพอใจต่อบริการที่ตัวเองได้รับ

ขณะเดียวกัน จากกรณีที่จำนวนแพทย์ไม่เพียงพอ ส่งผลให้แพทย์ชาวอินเดียส่วนใหญ่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก กล่าวคือ ทำงานมากกว่า 18 ชั่วโมงต่อวัน ไม่มีวันหยุด

“แพทย์ประจำบ้านในโรงพยาบาลรัฐ แทบไม่มีที่นั่งพักดี ๆ ในโรงพยาบาล อาหารที่พวกเขากินไม่ถูกสุขลักษณะ ใช้ชีวิตอยู่ในหอพักที่ย่ำแย่และไม่มีวันหยุด นี่มันคือชีวิตที่น่าเศร้า” Sharma กล่าว

ส่งผลให้การประท้วงหยุดงานของแพทย์ในครั้งนี้จึงเป็นการเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อรักษาและปกป้องความปลอดภัยของแพทย์ทุกคน จากการถูกคาดหวังที่สูงเกินของประชาชน เมื่อโครงสร้างทางพื้นฐานและทรัพยากรทางการแพทย์ที่จำเป็นในการรักษามีเพียงจำกัด ทั้งยังเรียกร้องให้มีการติดตั้งกลองวงจรปิดในทุกโรงพยาบาลรัฐอีกด้วย

“เราต้องการให้ภาครัฐจัดหาความปลอดภัยให้กับโรงพยาบาลทุกแห่ง และแก้ไขกฎหมายเพื่อที่ใครก็ตามที่ทำร้ายร่างกายแพทย์จะไม่ได้รับการประกัน การทำงานของพวกเราต้องไม่อยู่ภายใต้ความหวาดกลัว” Sharma ย้ำ

อย่างไรก็ดี การประท้วงหยุดงานในครั้งนี้ไม่ได้รวมบริการฉุกเฉิน กล่าวคือ ยังมีการเปิดให้บริการเช่นเดิม

ที่มา :

- Indian doctors strike over violence from patients and families [www.bangkokpost.com]

- Doctors in India strike over violent attacks by patients' families [www.theguardian.com]