ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองนายกฯรมว.สธ.มอบปลัดกระทรวงฯ ปรับสัดส่วนทีเอชซีเมล็ดกัญชงจากของใหม่ 0.3% หาทางกลับไปใช้ของเดิม 1 % หลังไม่ครอบคลุมคนปลูก ส่วนส่งออกทำตามมาตรฐานที่กำหนด

จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายหลังประกาศ 2 ฉบับ คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 มีสาระสำคัญคือ กำหนดเพิ่มเงื่อนไขสำหรับยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ลำดับที่ 1 คือ กัญชา และลำดับที่ 5 คือ กัญชง โดยมีเงื่อนไขการยกเว้นไม่เป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ของกัญชาและกัญชง

ฉบับที่ 2 คือ ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เรื่อง กำหนดลักษณะกัญชง (Hemp) พ.ศ. 2562 มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะกัญชงเพื่อประโยชน์ในการควบคุมการผลิต การนำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์กัญชง

โดยมีข้อเสนอให้ปรับสัดส่วนสารทีเอชซีเพิ่มขึ้นนั้น

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า เรื่องกัญชง ที่กลัวว่าจะไปเอื้อกลุ่มทุนอะไร กรณีกำหนดต้องมีสารทีเอชซีน้อยกว่า 0.3 % เปลี่ยนตัวเลขตรงนี้ได้หรือไม่ โดยให้กลับไปเป็น 1% ตามเดิมได้หรือไม่ เพื่อให้มีช่องว่างให้คนเข้าถึงได้ ตนได้ปรึกษาปลัด สธ.ว่า สามารถหารือกับทางคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษได้หรือไม่ ซึ่งก็ไม่ได้ทบทวนอะไร แค่ไปปรึกษาก่อนและดูว่า ถ้ายังไม่ครอบคลุมจะปรับแก้ได้หรือไม่ ซึ่งตนว่าไม่เห็นเป็นอะไร เปลี่ยนได้ หากคนทั่วไปไม่เข้าถึง ซึ่งการผลิตสารสกัดกัญชามีแบบแพทย์พื้นบ้าน แบบโมเดิร์น แบบเมดิคัลเกรด มีหลายอย่าง หากเอาแค่ 0.2-0.3% ต้นทุนจะสูง ก็น่าจะขยายได้ไม่มีปัญหา ซึ่งตนทำตรงนี้ขอยืนยันว่า ไม่ได้เอาใจใคร แค่เอาให้ผลสำเร็จพอ

เมื่อถามว่าหากปรับสัดส่วนจะส่งผลต่อการส่งออกหรือไม่ เนื่องจากองค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ว่าสารทีเอชซีต้องไม่เกิน 0.2% นายอนุทิน กล่าวว่า อยากส่งออกก็ทำให้ไม่เกิน 0.2 % ก็ยังอยู่ในกรอบ ก็อยู่ที่การควบคุม อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอย่างไรทั้งหมดเพื่อการแพทย์

ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ท่านรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการสธ.ได้มอบหมายให้นำข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลในพื้นที่ โดยเสนอให้เป็นช่วง ซึ่งหากใครจะปลูกแข่งเพื่อส่งออก ก็ทำตามมาตรฐาน 0.2% เรื่องนี้จะมีนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสธ.เป็นประธานหารือกันต่อไป