ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจัดสรรงบประมาณเหลือจ่ายของกระทรวงสาธารณสุขไม่เหมาะสม โดยถูกจัดส่งไปให้รพ.ที่มีความใกล้ชิดกับแพทย์บางกลุ่ม ว่า ปีนี้งบประมาณเหลือจ่ายเบื้องต้นน่าจะประมาณ 100 ล้านบาท แต่ที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่อาจเป็นความไม่เข้าใจกัน เพราะปัจจุบันข้อบังคับตามกฎหมายของสำนักงบประมาณมีการเปลี่ยนแปลง โดยเอาไปจ่ายค่าทิ้งงาน ค่าอุปโภค หนี้ค่ายาต่างๆ โดยหลักเกณฑ์ คือ 1.ให้ผู้ตรวจแต่ละเขตสำรวจความต้องการในพื้นที่และเสนอเข้ามายังกระทรวง แต่ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์นั้นเห็นตัดมาแค่เฉพาะเขตสุขภาพที่ 6 เขตเดียวมาพูด ทั้งที่จริงแล้วทุกเขตได้เหมือนกันหมด เราจะเอาเงินไปให้รพ.เดียว 30 ล้านบาทเป็นไปได้ รพ.จะได้มากน้อยนั้น ขึ้นอยู่ที่เขตเป็นผู้พิจารณา

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า 2.ช่วยพื้นที่ที่มีปัญหา เช่น มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่จำเป็นในการรักษาด่วน เช่น การผ่าสมองของรพ.ภูเก็ต หรือ กรณีน้ำแล้งของ รพ.สุรินทร์ กรณีน้ำท่วม เป็นต้น และ 3.การเตรียมยากัญชาให้กับทั่วประเทศ ซึ่งรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นผู้ดำเนินการ จึงได้จัดงบไปให้เขต 6 เพราะรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรผลิตยากัญชาให้กับทั้งประเทศโดยไม่คิดมูลค่า

“เมื่อก่อนหากมีการสร้างตึกเขามาทำสัญญาก็ต้องพับเงินงบประมาณไปเลย เราก็ต้องนำเงินงบที่เหลือจ่ายไปจ่าย ซึ่งเป็นตามกฎหมาย ดังนั้นเงินจะไม่เหลือเหมือนปีที่ผ่านๆ มาที่เหลือ 2-3 ร้อยล้านบาท เพราะเราจ่ายกับพวกทิ้งงานแต่ละปีก็ 1-2 ร้อยล้านแล้ว ตอนนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถึงมาดูว่าทำไมถึงทิ้งงาน นอกจากนี้ ที่ผ่านมาก็มีการให้แต่ละเขตเสนอของบมาเป็นรอบๆ เช่น ก่อนหน้านี้มีการให้ไปแล้วส่วนหนึ่ง และล่าสุดมีการให้ไปอีกเขตละ 7 ล้านบาทรวม 12 เขต รวมเป็นเงิน 84 ล้านบาท และหากมีเงินเหลือก็จะจัดสรรให้อีก ดังนั้นไม่มีเหลือ แต่ที่เห็นว่ารพ.ใหญ่ได้ ขอย้ำว่าเป็นเพราะถูกทิ้งงานซึ่งมันมีเหตุผลและมีกฎหมายรองรับ”นพ.สุขุม กล่าว

นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีรพ.บางแห่งระบุว่าอยู่ห่างไกลจะไม่มีผู้รับเหมานั้น ก็อยากถามว่าถ้าเป็นแบบนั้นแล้วรพ.จะขอทำไมตั้งแต่แรก อยู่ที่ตัวของรพ.เอง กระทรวงไม่เคยสั่งให้รพ.ไหนสร้างตึก การสร้างก็เป็นเรื่องของรพ.เสนอมาที่เขต ที่ จังหวัด ซึ่งจะอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการอยู่แล้ว ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ตนก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะที่ทำก็เป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีใครที่ได้เพราะใกล้ชิดปลัดกระทรวงอยู่แล้ว คนขอเข้ามาคือผู้ตรวจฯ และก็จะนำเข้าที่ประชุม แต่ที่พูดกันน่าจะเป็นการจงใจเลือกเขต แทนที่จะไปดู เช่น ภูเก็ตได้งบไป10 ล้านบาท ก็ไม่มีใครพูด เป็นต้น