ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน” รุดให้กำลังใจ ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พร้อมให้ความมั่นใจ ทางการไทยดูแลเต็มที่ แจงเหตุยังไม่ปล่อยกลับบ้านเพราะยังตรวจพบสารพันธุกรรมเชื้อ ขณะที่สถาบันบำราศนราดูร รับผู้ป่วยจีน เพิ่ม 3 ราย ตรวจเบื้องต้นยังไม่พบเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2563 ที่สถาบันบําราศนราดูร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุขได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ป่วยชาวจีนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่เข้ามารับการรักษา ที่สถาบันบำราศตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังได้มีการพูดคุยและให้กำลังใจกับญาติของผู้ป่วยชาวจีนรายนี้ รวมถึงให้กำลังใจผู้ป่วย และขอให้อดทน

ทั้งนี้ ญาติผู้ป่วยได้กล่าวขอบคุณที่รัฐบาลไทยให้การดูแลรักษาเป็นอย่างดีพร้อมจัดหาที่พักให้ และระบุว่าก่อนหน้าที่จะเข้ารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูรยังมีความเป็นห่วง เนื่องจากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูงและยาที่พกติดตัวมาใกล้จะหมด แต่ขณะนี้ทางสถาบันบำราศฯ ได้มีการตรวจและจัดหายาความดันให้ จึงคลายกังวลแล้ว

จากนั้น ญาติผู้ป่วยได้มีการสนทนาผ่านอินเตอร์คอมกับผู้ป่วยที่อยู่ภายในห้องแยกโรค โดยให้กำลังใจขอให้ผู้ป่วยรักษาตัวให้หายอย่ากังวลอะไร เนื่องจากขณะนี้ทางการไทยให้การดูแลเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามผู้ป่วยได้ตอบกลับว่าอยากจะกลับบ้านและมีความเป็นห่วงลูกที่ติดตามมาด้วยเนื่องจากเป็นเด็ก จึงกังวลว่าจะรับประทานอาหารได้ไม่มาก อาจจะเกิดการเจ็บป่วยได้

นายอนุทิน กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมผู้ป่วยชาวจีนรายนี้ได้ รับรายงานว่าไม่มีอาการไข้แล้ว แต่รับประทานอาหารได้น้อยและมีภาวะเครียดเล็กน้อย เพราะต้องอยู่ในห้องแยกโรคคนเดียวไม่ได้ไปไหน อย่างไรก็ตามจากการสอบถามข้อมูลผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้ไปตลาดที่ทางการจีนสั่งปิด แต่ไปตลาดแห่งอื่น เบื้องต้นผู้ป่วยไม่มีไข้แล้วถือว่าหาย แต่ยังต้องรอผลตรวจแล็บยืนยันผลอีกครั้ง สำหรับผู้ป่วยชาวจีนที่รับเข้ามาดูแลที่สถาบันบำราศฯ เพิ่มตอนนี้ 3 ราย เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา แต่ก็เครียดเพราะต้องอยู่ห้องแยกโรค บางรายขอกินไก่ทอดเคเอฟซี เราพยายามจัดหาให้เพื่อช่วยให้เขาลดความเครียดลง ตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจเชื้อเพิ่มเติม ถ้าตรวจแล้วไม่มีเชื้อไวรัสที่เราเฝ้าระวังอยู่ก็จะให้กลับบ้าน หากมีความประสงค์อยู่เที่ยวต่อก็ไม่มีปัญหาอะไร

“ขอย้ำประชาชนอย่าตื่นตระหนก ช่วงนี้หากเลี่ยงไม่ได้ไปเมืองอู่ฮั่นได้ก็ขอว่าอย่าเพิ่งไป ส่วนในเมืองไทยเองอาจจะต้องหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีคนอยู่เยอะ ใครไอ จาม มีน้ำมูก ห่างได้ก็เป็นการดูแลตัวเองตามปกติ และตามธรรมชาติของมนุษย์เมื่อได้รับเชื้อร่างกายจะมีการสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาป้องกันตัว ส่วนจะมี ยาหรือวัคซีนป้องกันโรคนี้หรือไม่ก็อาจจะต้องรอ สิ่งสำคัญคือหากมีไข้ มีความเสี่ยงขอให้มาพบแพทย์ให้เร็วเพื่อทำการรักษา ทุกอย่าง ทุกอย่างที่ประเทศไทยทำ เป็นการทำตามขั้นตอนปฏิบัติขององค์การอนามัยโลกขอให้สบายใจได้”

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยชาวจีนที่เข้ารับการรักษาที่สถาบันบําราศนราดูรอาการดีขึ้นไม่มีไข้ แต่เนื่องจากยังมีการตรวจพบสารพันธุกรรมของโคโรนาไวรัสในสิ่งส่งตรวจ จึงยังไม่สามารถปล่อยตัวให้กลับบ้านได้เพราะขณะนี้เรายังมีข้อจำกัดเรื่องข้อมูลของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ จึงไม่อาจปล่อยให้เกิดความเสี่ยงที่จะไปแพร่เชื้อต่อประชาชนในพื้นที่สาธารณะได้ เราต้องดำเนินมาตรการควบคุมป้องกันโรคสูงสุดเทียบเท่าการติดเชื้อเมอร์ส อย่างไรก็ตามคาดว่าผู้ป่วยน่าจะสามารถออกจากห้องแยกโรคได้ในวันนี้

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สารพันธุกรรมหากจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับมนุษย์เมื่อเสียชีวิตแล้ว ยังสามารถตรวจหาดีเอ็นเอได้ ดังนั้นเชื้อไวรัสโคโรนาก็เหมือนกัน แม้เชื้อตายแล้วแต่เรายังสามารถตรวจหาสารพันธุกรรมได้ อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้เราได้เก็บตัวอย่างเชื้อเอามาเพาะเพื่อหาข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องต่อไป

นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า ขณะนี้ทางสถาบันฯ ยังได้รับตัวชาวจีน 3 รายเข้ามารับการดูแลในห้องแยกโรคเพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัสโคโรนาด้วย เนื่องจากตรวจพบพบว่ามีไข้ รายแรกเป็นเด็กอายุ 6 ขวบเข้ามารับการดูแลที่สถาบันบำราศฯ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ส่วนอีก 2 รายเป็นเด็กอายุ 5 ขวบและผู้สูงอายุ อายุ 75 ปีเข้ามารับการดูแลเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจไปตรวจทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คาดว่าจะทราบผลการตรวจเร็ว ๆ นี้