ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.รอยืนยันผลแล็บ ก่อนแถลงว่าผู้ป่วยหญิงชาวจีนมากับกรุ๊ปทัวร์ ที่เข้าข่ายต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายที่ 2 หรือไม่ เบื้องต้นรอบแรกตรวจพบเชื้อไวรัสแตกต่างจากเชื้อในตระกูลโคโรนาตัวที่เคยเจอตัวอื่น ๆ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นตัวเดียวกับที่เจอที่เมืองอู่ฮั่นหรือไม่ ส่วนคนอื่นในกรุ๊ปทัวร์ไม่มีใครติดเชื้อเพิ่ม ระบุประสาน 2 สายการบิน ห้ามคนป่วยขึ้นเครื่อง และคืนเงินค่าเดินทาง เผยมาตรการเข้ม ตรุษจีน เที่ยวแรกจากอู่ฮั่นมาสนามบินกระบี่ อู่ตะเภา 17 ม.ค. นี้ แจงยังไม่พบข้อมูลติดจากคนสู่คน

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ที่ห้องประชุมชม เทพยสุวรรณ กรมควบคุมโรค ได้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ซึ่งมีนักระบาดวิทยา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ และผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา เป็นกรรมการ อาทิ รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค และผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการโรคติดต่อฯ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์ฯ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พญ.นฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมการแพทย์ นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร โดยที่ประชุมมีการพิจารณาเรื่องมาตรการควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 พร้อมพิจารณาผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (แล็บ) ของผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น.

ต่อมาเวลา 17.00 น. นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ป่วย 1 ที่เข้าข่ายสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา โดยในการตรวจรอบแรกพบลักษณะของเชื้อไวรัสที่แตกต่างจากเชื้อในตระกูลโคโรนาตัวที่เคยเจอตัวอื่น ๆ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นตัวเดียวกับที่เจอที่เมืองอู่ฮั่นหรือไม่ ดังนั้น อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยันรอบที่ 2 ว่าจะเป็นไวรัสโคโรนาที่ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบตัวเดียวกับที่พบที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนหรือไม่ เบื้องต้นผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นหญิงสูงอายุชาวจีน มีอาการป่วยตั้งแต่อยู่ที่เมืองจีนแล้ว แต่เนื่องจากซื้อทัวร์เอาไว้ จึงเดินทางมาที่ประเทศไทย แต่ระบบเราตรวจเจอและถูกส่งตัวเข้ามาดูแลที่ห้องแยกโรคสถาบันบำราศนราดูร เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ป่วยรายดังกล่าวมีอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ ส่วนคนที่ร่วมเดินทางมากับกรุ๊ปทัวร์เดียวกันนั้นไม่มีใครมีอาการป่วยแต่อย่างใด ส่วนผู้ป่วยรายแรกตอนนี้ก็ยังอยู่ที่ห้องแยกโรคสถาบันบำราศฯ

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ล่าสุดกรมควบคุมโรคได้ขอความร่วมมือไปยังสายการบินแอร์เอเชีย กับไชนาเซาเทิร์นแอร์ไลน์ให้ตรวจคัดกรองคนป่วยไม่ให้มีการขึ้นเครื่องเดินทาง โดยคืนค่าเดินทางให้ทั้งหมด ทางสายการบินก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งที่คนป่วยได้เดินทางออกนอกพื้นที่เป็นเพราะเขาเสียดายค่าเดินทาง โดยเฉพาะตอนนี้คนเริ่มทยอยเดินทางมาร่วมเทศกาลตรุษจีนที่ประเทศไทยแล้ว ซึ่ง 4 สนามบินเดิมที่เรามีมาตรการคัดกรองเข้มแล้ว ยังเพิ่มคน เพิ่มมาตรการคัดกรองที่สนามบินกระบี่ และอู่ตะเภา ซึ่งเที่ยวบินแรกบินตรงจากเมืองอู่ฮั่นจะมาในวันที่ 17 มกราคมนี้

เมื่อถามถึงสถานการณ์ที่เมืองอู่ฮั่นมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า ตอนนี้ยังมีเพียงการรายงานสรุปเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2563 ที่มีผู้ป่วย 59 ราย ผลตรวจแล็บยืนยัน 49 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยคนที่เสียชีวิตมีโรคประจำตัวอยู่เดิม คือ มีก้อนที่ตับ และมีภาวะตับแข็งอยู่ก่อน อย่างไรก็ตาม สำหรับคำแนะนำประชาชนหากหลีกเลี่ยงการไปเมืองอู่ฮั่นไม่ได้ ก็ขอให้หลีกเลี่ยงการไปตลาด เลี่ยงการไปรพ.โดยไม่จำเป็น และสวมหน้ากากอนามัย

เมื่อถามว่า องค์การอนามัยโลกระบุว่า มีความเป็นไปได้ว่าเชื้อตัวนี้อาจจะแพร่จากคนสู่คน นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ในทางทฤษฎีไม่มีอะไรที่แน่นอน ซึ่งจากประกาศขององค์การอนามัยโลก การติดต่อจากคนสู่คนไม่ง่าย นั่นแปลว่าก็มีโอกาสที่จะติดจากคนสู่คนได้ แต่ที่จีนก็ยังไม่มีรายงานเรื่องการติดต่อจากคนสู่คน และจากข้อมูลที่เราเจอผู้ป่วยรายแรกที่แถลงไปก่อนหน้านี้ มีการตรวจคนที่ร่วมเดินทางในสายการบินเดียวกัน รวมถึงคนในครอบครัว ยังไม่มีใครติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม โรคนี้ไม่รุนแรงเหมือนกับซาร์ส แต่เราก็ยกระดับการควบคุมดูแลเทียบเท่าซาร์ส และตอนนี้ไม่ห้ามการเดินทาง มีเพียงคำแนะนำเรื่องการเดินทางเท่านั้น

มีรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ (17 มกราคม 2563) เวลา 08.30 น. นพ.สุขุม กาจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เตรียมแถลงข่าวเรื่องดังกล่าว จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ก็จะเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เตรียมความพร้อมกรณีโรคปอดอักเสบ/สงสัยปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ในเวลา 09.00 น. เป็นต้นไป.