ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.พบผู้ป่วยยืนยันโรคปอดอักเสบจากไวรัสอู่ฮั่นแล้ว 8 ราย ทั้งหมดติดเชื้อจากต่างประเทศ เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 7 ราย และคนไทยที่กลับจากไปเที่ยวอู่ฮั่น 1 ราย 5 รายหายดีกลับบ้านแล้ว เหลืออีก 3 รายยังอยู่ รพ. มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 84 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 45 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรับไว้ในห้องแยกโรค 39 ราย

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ในวันนี้คณะผู้เชี่ยวชาญฯได้ประกาศผลยืนยันผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่ม รวมเป็น 8 ราย เป็นนักท่องเที่ยว ชาวจีน 7 ราย และคนไทยที่กลับจากไปเที่ยวเมืองอู่ฮั่น 1 ราย โดยผู้ป่วย 5 ราย หายดีกลับบ้านได้แล้ว อีก 3 รายยังนอนพักในห้องแยกความดันลบในโรงพยาบาล ทุกรายอาการดี รอผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการเป็นลบจึงจะให้กลับบ้านได้

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ประเทศไทยได้ยกระดับการเฝ้าระวัง คัดกรองผู้ป่วยสงสัยฯ จากพื้นที่แพร่ระบาดของโรค ครอบคลุมทั้ง สนามบิน สถานพยาบาลรัฐ/เอกชน และในชุมชน ให้โรงแรมที่พักเป็นจุดเฝ้าระวังด้วย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในประเทศขณะนี้ ผู้ป่วยทั้งหมดยังเป็นผู้ป่วยที่เข้ามาจากต่างประเทศ ความร่วมมือของประชาชน ผู้ประกอบการทัวร์ โรงแรม ที่พัก เป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้การควบคุมป้องกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ภาพจาก https://gisanddata.maps.arcgis.com/

ขณะที่สถิติผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 2,019 คน เสียชีวิตแล้ว 56 คน โดยผู้ที่ติดเชื้ออันดับ 1 ได้แก่ จีน 1,979 คน อันดับ 2 ไทย 8 คน อันดับที่ 3 ฮ่องกง 5 คน อันดับที่ 4 ออสเตรเลีย 4 คน และฝรั่งเศสอันดับ 5 จำนวน 3 คน

ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เผยแพร่สถานการณ์โรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ดังนี้

สถานการณ์ ถึงวันที่ 26 มกราคม 2563

1.พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 ราย (กลับบ้านแล้ว 5 ราย อีก 3 รายนอนโรงพยาบาล) ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทย

2.มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 84 ราย คัดกรองจากสนามบิน 24 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 60 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 45 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรับไว้ในห้องแยกโรค 39 ราย

3.สถานการณ์ทั่วโลก ข้อมูล ตั้งแต่ 5 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 25 มกราคม 2563 พบผู้ป่วย 21 ราย ใน 10 ประเทศ ส่วนประเทศจีน ข้อมูล ณ วันที่ 25 มกราคม 2563 พบผู้ป่วย 1,303 ราย เสียชีวิต 41 ราย

4. ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์จะดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์ เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php และ Line@ / เพจ เฟสบุ๊ค : รู้กันทันโรค, เพจเฟสบุ๊ค : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

ผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค

1.จากการตรวจคัดกรอง 5 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ สะสมตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563 ถึง วันที่ 25 มกราคม 2563 จำนวน 21,522 คน และเฉพาะในวันที่ 25 มกราคม 2563 ได้คัดกรองเที่ยวบินจากกวางโจว 11 เที่ยวบิน มีผู้เดินทางและลูกเรือ 1,556 คน

2.นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับแจกคำแนะนำ (health beware card) จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค

ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019

สาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศปิดการเดินทางสาธารณะที่เข้าออกเมืองอู่ฮั่นและพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทุกช่องทาง และประชาชนควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

1.ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นและเมืองที่มีการระบาดตามคำประกาศของทางการจีน

2.ระหว่างเดินทางในต่างประเทศขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม แนะนำควรสวมหน้ากากอนามัย

3.หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตาย และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรวมถึงเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี

4.หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น

5.ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ

6.รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

7.หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php และ Line@ / เพจเฟสบุ๊ค : รู้กันทันโรค เพจเฟสบุ๊ค : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข