ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.พบผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 6 ราย ดูแลในห้องแยกโรค ไม่มีอาการรุนแรง เผย ขยายคัดกรองคนจีนทุกคน ทุกเมืองที่เข้าไทย พร้อมกรองคนออกนอกไทยไปประเทศจีนด้วย มีไข้ห้ามเดินทาง ขอความร่วมมือทุกคนร่วมสังเกต โดยเฉพาะแท็กซี่ ร้านนวด หากพบสัญญาณ ให้รีบแจ้ง 1422 ย้ำยังไม่มีการระบาดภายในประเทศ

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวความคืบหน้าการควบคุมป้องกันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ว่า ขณะนี้ได้มีการรับตัวผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 6 ราย เดินทางมาจากมลฑลหูเป่ย โดย 5 ราย อายุระหว่าง 6-60 ปี เป็นครอบครัวเดียวกัน มาจากเมืองอู่ฮั่น ขณะนี้ให้การรักษาที่ห้องแยกโรคสถาบันบำราศนราดูร ทั้งนี้ก่อนหน้าไทยมีจำนวนผู้ป่วยยืนยันอยู่ที่ 8 ราย รวมกับ 6 รายใหม่นี้ เป็น 14 ราย โดย 5 ราย รักษาหายและออกจาก รพ.แล้ว ยืนยันว่าทั้งหมดนี้เป็นเคสที่เกิดการติดเชื้อมาจากนอกประเทศไทย ยังไม่มีการระบาดภายในประเทศ

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นอกจากนี้กระทรวงยังคัดกรองรายที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 136 ราย คัดกรองจากสนามบิน 29 ราย มา รพ.เอง 107 ราย และกลับบ้านแล้ว 55 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงขยายการคัดกรองคนเข้มข้นที่สนามบินในกลุ่มคนจีนทุกคน ที่มาจากทุกเมืองของประเทศจีนด้วย และจะสนับสนุนสายการบินเพื่อตรวจคัดกรองคนที่จะออกจากเมืองไทยไปยังประเทศจีนด้วย เพราะทางการจีนก็กังวลไทยเหมือนกัน

ทั้งนี้ ยังได้ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประสานกับจังหวัดดูแลสถานที่ บ้านพักพี่น้องประชาชน และแหล่งชุมชนต่าง ๆ รวมไปถึงผู้ให้บริการคนขับรถสาธารณะ ขับรถแท็กซี่ รวมถึงการบริการนวดผ่อนคลาย ซึ่งหากพบว่าคนจีนที่มาใช้บริการมีอาการผิดปกติต้องรีบให้คำแนะนำ หรือติดต่อมายังเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โทรสายด่วน 1422 อีกทั้งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังพัฒนาห้องปฏิบัติการทั่วประเทศในการทำ Real-time PCR ให้ผลภายใน 3 ชั่วโมง สิ่งสำคัญในเรื่องการป้องกันต้องคือสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อย ๆ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หลีกเลี่ยงการใช้มือมาขยี้ตา สัมผัสใบหน้า ขอให้ดูแลตัวเอง

ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย ว่า ผู้ป่วย 5 รายเป็นครอบครัวเดียวกัน เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ทางการจีนจะสั่งปิดการเดินทางเข้าออกประเทศ โดยวันเดินทางมานั้นมากัน 7 คน ซึ่ง 1 ใน 7 คนนั้นมีอาการป่วยทำให้สามารถคัดกรองได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิและนำเข้าห้องแยกโรคสถาบันบำราศนราดูร ส่วนอีก 6 คนที่เหลือมีการติดตามอาการทุกวัน และทันทีที่ 4 ใน 6 คนนั้นมีอาการป่วยก็จับเข้าห้องแยกโรคเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นโอกาสที่ 4 คนนี้จะไปแพร่โรคนั้นมีน้อยมาก ส่วนอีก 1 รายที่พบเชื้อนั้นไม่ได้มาจากเมืองอู่ฮั่น แต่มาจากมณฑลหูเป่ยเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่ากรณีมีการยืนยันพบผู้ป่วย 1 เคสที่กัมพูชานั้นจะต้องมีการเพิ่มมาตรการอะไรร่วมกันหรือไม่ นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ที่จริงไม่เพียงแต่กัมพูชาเท่านั้นที่เจอ แต่มาเลเซียก็เจอด้วย ดังนั้นหลักการคือตราบใดที่ยังไม่เจอผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศนั้น ๆ เอง แต่ยังเป็นผู้ป่วยที่รับเชื้อมาจากนอกประเทศ ก็เป็นหลักฐานที่ดีพอที่จะบอกว่าพื้นที่นั้นไม่ใช่พื้นที่การระบาด ความเสี่ยงที่จะมาจากประเทศนั้น ๆ ยังต่ำอยู่ ซึ่งจากข้อมูลตอนนี้ยังไม่มีประเทศไหนที่พบการติดเชื้อในประเทศเขาเอง ทั้งหมดยังเป็นผู้ติดเชื้อมาจากจีน อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำวิธีการปฏิบัติตัวของคนไทยในการดูแลตัวเองด้วยโดยการการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อย ส่วนความกังวลเรื่องท่าเรือจากจีนเข้าไทยนั้น หากใช้เวลาเดินทางนาน เช่น เดินทางเป็น 10 วัน ในขณะที่ระยะฟักตัวของโรคอยู่ที่ 14 วัน ดังนั้นความเสี่ยงต่ำกว่าที่สนามบิน

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับเคสที่เดินทางมาเป็นครอบครัวนั้น มี 1 คนป่วยก่อน อีก 4 คนป่วยทีหลังนั้น เป็นไปได้ว่าเกิดการติดเชื้อระหว่างกันในครอบครัว หรืออาจจะได้รับเชื้อที่จีนมาเหมือนกันเพื่อเพิ่งแสดงอาการ ส่วนคนในครอบครัวอีก 2 คนที่มาด้วยกันยังสังเกตอาการอยู่ ขณะที่ผู้ป่วยอีก 1 ราย ไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวดังกล่าว เข้ามาไทยตอนที่ยังไม่มีอาการป่วย แต่พอเริ่มมีอาการป่วยจึงใช้บัตรแนะนำการปฏิบัติตัวที่เราแจกให้นั้นมาเข้ารับการรักษา ทั้งนี้ผู้โดยสารที่เดินทางมากับสายการบินเดียวกับผู้ป่วยทั้ง 6 รายนี้ มี 22 คน ส่วนหนึ่งเดินทางกลับไปแล้ว อีกส่วนหนึ่งที่ยังอยู่ในไทย ซึ่งเรามีรายชื่ออยู่ในมือแล้ว ตรวจสอบทุกวันยังปกติดี

นพ.โสภณ กล่าวถึงการคัดกรองคนจีนทุกรายที่มาจากทุกเมือง ว่า มีเครื่องเทอร์โมสแกนก่อนถึงจุดตรวจคนเข้าเมือง ที่สามารถคัดกรองได้ทุกคนที่จะเข้ามาในประเทศ และมีกล้องวงจรปิดดู ส่วนคนที่มาจากเมืองที่มีการระบาดของไวรัสโคโรนา จะมีการคัดกรองที่หน้าเกต หรือทันทีที่ลงมาจากเครื่องบินเลย เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนได้ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด