ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.แถลงคนขับแท็กซี่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 รายแรกที่ไม่เคยไปจีน เผยผลติดตามคนเสี่ยง 13 ราย ไม่พบการติดเชื้อ “อนุทิน” อยากบินรับนักศึกษาจากอู่ฮั่นกลับไทย แต่ติดที่ต้องถูกกักโรค 14 วันอาจไม่สะดวก

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 เวลา 16.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่ม 5 ราย เป็นคนจีน 4 รายจากเมืองอู่ฮั่น และคนขับแท็กซี่ที่รับนักท่องเที่ยวจีน 1 ราย ดังนั้น เดิมกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ฯ 14 ราย รวมกับวันนี้อีก 5 ราย เท่ากับว่าขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมรวม 19 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 7 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยคนไทยรายแรกที่ไม่มีประวัติเดินทางไปยังประเทศจีนมาก่อน ส่วนคนขับแท็กซี่อีกรายไม่พบการติดเชื้อ ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าไทยยังมีความเสี่ยงต่ำ แต่ขอให้คนไทยสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือด้วย

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคจากคนขับแท็กซี่รายนี้ พบว่ามีการรับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในประเทศไทย แต่หลังจากคนขับแท็กซี่มีอาการป่วยแล้วก็ได้หยุดขับรถ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผลการตรวจเชื้อของคนขับแท็กซี่รายนี้จะออกมา เราได้ติดตามผู้สัมผัสกับแท็กซี่รายนี้แล้วทั้งหมด 13 ราย เป็นคนในครอบครัว 3 ราย และคนอื่น 10 ราย โดยเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งในลำคอตรวจแล้วไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด ทั้งนี้คนที่เป็นผู้โดยสารไม่ต้องกังวลเพราะแท็กซี่รายนี้หยุดขับรถเมื่อเริ่มมีอาการ

นพ.ธนรักษ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้คนไทยมีความเสี่ยงในการในการติดเชื้อในระดับต่ำ แต่ไม่ใช่ว่าเสี่ยงจากคนขับแท็กซี่ที่เกิดการติดเชื้อนี้ แต่เพราะวันนี้ประเทศไทยยังมีนักท่องเที่ยวเดินอยู่ในประเทศ ก็ยังมีความเสี่ยง แต่ไม่สูง และที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขมีการวางแผนการรับมือกับสถานการณ์ 5 ระดับอยู่แล้ว ระดับที่ 1 ผู้ป่วยติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ระดับที่ 2 พบการติดเชื้อภายในประเทศ ซึ่งวันนี้เราเจอระดับที่ 2 แล้วก็จะพยายามอย่างเต็มที่ ให้ประเทศกลับไปอยู่ในระดับที่ 1 คือให้เป็นแค่คนป่วยติดเชื้อมาจากต่างประเทศเท่านั้น

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะผู้บัญชาการของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กล่าวว่า จากประวัติคนขับแท็กซี่รายนี้ไปรับนักท่องเที่ยวจีนในขณะที่มีอาการป่วยเพื่อไปส่งที่โรงพยาบาล เนื่องจากแท็กซี่ไม่ทราบว่าเขาป่วยด้วยอะไรจึงรับไปส่ง ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนรายนี้เป็นหนึ่งในผู้ป่วยที่กระทรวงสาธารณสุขให้การรักษาจนหายและกลับประเทศไปแล้ว ส่วนตัวคนขับแท็กซี่เองเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง และทราบเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อนี้ พอเริ่มมีอาการก็ประสานมายังกรมควบคุมโรคให้รับตัวเข้าสู่ระบบการควบคุมโรค

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ แถลงภายหลังการประชุมนัดแรก ว่า ยืนยันว่าเรามีมีมาตรการเพื่อปกป้องชีวิตและสุขภาพคนไทยก่อนเรื่องเศรษฐกิจ แต่ในส่วนของการที่ให้นักท่องเที่ยวต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าปลอดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ถึงจะให้เข้าประเทศนั้น จากการหารือผู้เชี่ยวชาญระบุว่าประเทศยังมีความเสี่ยงต่ำ และมาตรการขั้นสูงสุดที่วางไว้ยังสามารถดูแลได้ จึงยังไม่ถึงขั้นที่ต้องให้แสดงใบรับรองแพทย์ รวมไม่ต้องถึงขั้นยกเลิกวีซ่า ส่วนนักวิ่งชาวจีนจะเข้าร่วมในรายการวิ่งผ่าเมือง กรุงเทพมาราธอนร้อยกว่าคนนั้นคัดกรองแล้วปกติ วิ่งได้

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนการไปรับนักศึกษาไทยที่เมืองอู่ฮั่น เบื้องต้นทราบว่ามีราว ๆ 161 คน ซึ่งสายการบินแอร์เอเชีย แอร์บัส เอ 320 สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 180 คน จะให้การช่วยเหลือในการรับผู้โดยสารกลับมาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ตอนนี้เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้แล้ว รอได้รับอนุญาตจากจีนก็เข้าพื้นที่ได้เลย พยายามให้ทันภายในวันที่ 4 ก.พ. ส่วนตนเองอยากจะไปรับด้วยตัวเองเผื่อต้องการข้อสั่งการหรือการตัดสินใจอย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากพอกลับมาแล้วต้องถูกกักโรค 14 วัน จึงไม่น่าจะสะดวก แต่ก็ต้องปรึกษาทีมแพทย์อีกครั้ง ส่วนตัวหากตนไปเองก็สามารถดูแลตัวเองได้ไม่ต้องเอาทีมผู้ติดตามไปด้วย