ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.พบผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่มอีก 7 ราย เป็นคนจีน 4 ราย และคนไทย 3 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนไทยที่กลับจากเมืองอู่ฮั่น 1 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมขยับเป็น 32 ราย

นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ประจำวันที่ 8 ก.พ. 2563 โดยให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 7 ราย ทำให้ตัวเลขจำนวนผู้ป่วยสะสมเพิ่มจาก 25 ราย เป็น 32 ราย อย่างไรก็ดี ประเทศไทยยังคงมีจำนวนผู้ป่วยไทยมากเป็นลำดับที่ 4 รองจาก จีน ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 7 รายนี้ แบ่งเป็นคนจีน 4 ราย และคนไทยอีก 3 ราย ในส่วนของคนจีนนั้น มี 3 รายที่เป็นคนในครอบครัวเดียวกับผู้ป่วยที่ตรวจพบก่อนหน้านี้และมี 1 รายที่เดินทางเข้ามาจากประเทศจีนและได้รับการ์ดแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อมีอาการป่วย นักท่องเที่ยวรายนี้จึงเข้ารับการคัดกรองและรักษาตัว ส่วนคนไทย 3 รายนั้น มี 2 รายที่มีอาชีพที่ต้องติดต่อกับนักท่องเที่ยว และอีก 1 ราย เป็นคนไทยที่กลับจากอู่ฮั่นและดูแลในพื้นที่เฉพาะที่สัตหีบ

"คนไข้รายนี้เป็นเพศชาย สภาพทุกอย่างปกติหมด ร่างกายแข็งแรง ผลเอกซเรย์ปอดเป็นปกติ ไม่มีไข้ มีน้ำมูกเล็กน้อย แต่ผลตรวจเป็นบวก ขณะนี้แยกมาอยู่ในการดูแลที่โรงพยาบาลชลบุรี ส่วนผู้ที่พักร่วมห้องกับผู้ป่วยรายนี้ผลตรวจร่างกายเป็นปกติ" นพ.ณรงค์ กล่าว

นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ยืนยันว่าผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 7 ราย ขณะนี้อยู่ในโรงพยาบาลหมดแล้ว ไม่ได้ออกไปสัมผัสกับผู้อื่น และในวันนี้ก็มีผู้ป่วยที่หายดีแล้วเพิ่มอีก 1 ราย รอเพียงผลแล็บยืนยันอีกครั้งก็สามารถกลับบ้านได้ ขณะที่ในรายของผู้ป่วยที่ติดเชื้อวัณโรคนั้น ขณะนี้อาการยังทรงตัว แพทย์ยังคงดูแลอย่างใกล้ชิด

ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในส่วนของหน้ากากอนามัยนั้น ทางรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมผู้เกี่ยวข้องและมีการตรวจสอบในส่วนของผู้ผลิต ซึ่งถ้ามีการใช้งานอย่างเหมาะสม ไม่กักตุนสินค้า จะมีหน้ากากเพียงพอแน่นอน แต่ตอนนี้มีความแตกตื่นและกักตุนซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแล้วไม่ว่าจะเป็นการออกประกาศกระทรวงพาณิชย์และการลงพื้นที่ตรวจสอบต่าง ๆ ตลอดจนประสานงานกับผู้ผลิตเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินค้า