ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โฆษกคณะกรรมการสาธารณสุขจีนยันผู้ป่วยนอกหูเป่ยลดลงเห็นได้ชัด สะท้อนจีนจำกัดวงการระบาดได้ ด้านวารสารพรรคคอมมิวนิสต์ฯ เปิดแถลงการณ์ “สีจิ้นผิง” ย้อนหลัง ระบุกำชับให้จัดการไวรัสตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. แต่รัฐบาลท้องถิ่น “เกียร์ว่าง”

วันที่ 16 ก.พ. หมี เฟง โฆษกคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีน แถลงข่าวว่า ขณะนี้ มาตรการจัดการเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ของจีน “ได้ผล” อย่างเห็นได้ชัด โดยตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จากรายงานฉบับล่าสุด วันที่ 16 ก.พ. ลดลงอย่างชัดเจน เหลือ 2,009 ราย จากเดิม 2,641 ราย เมื่อ 1 วันก่อนหน้านี้ ส่วนผู้เสียชีวิต ก็ลดลงจาก 143 ราย เหลือ 142 ราย

โฆษกคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีน ย้ำว่า มาตรการที่เข้มข้นของจีน อย่างการปิดเมืองต่าง ๆ ในมณฑลหูเป่ย เพื่อไม่ให้ไวรัสกระจายตัวออกนอกพื้นที่นั้น ได้ทำให้เชื้อไวรัสหยุดกระจายตัวแล้ว ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยรายใหม่นอกหูเป่ย ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกัน การส่งหน่วยแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์เข้าไปในพื้นที่เพิ่มเติม ก็มีความก้าวหน้าเช่นเดียวกัน โดยขณะนี้ รายงานล่าสุดที่ได้รับก็คือ จำนวนผู้ป่วยหนัก กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี โดยมีผู้ป่วยจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น ที่อาการรุนแรงขึ้น ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่ออกจากโรงพยาบาล มีอาการดีขึ้น ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ขณะที่ ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวชื่นชมจีนอีกครั้ง ที่ “ซื้อเวลา” ให้ทั้งโลกได้ โดยสามารถบังคับใช้นโยบายอย่างเข้มงวดทุกวิถีทางในการจำกัดวงการระบาดให้อยู่เฉพาะในจีนเท่านั้น ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศอื่นทั่วโลกมีไม่มากนัก และผู้เสียชีวิตนอกจีน ก็ยังมีเพียง 4 รายเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ วันเสาร์ที่ 15 ก.พ. Qiushi วารสารรายปักษ์ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เปิดเผยสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ต่อคณะกรรมการบริหารพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือโปลิตบูโร เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยในสุนทรพจน์ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้กล่าวหาเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระดับมณฑลว่า ไม่ยอมทำตามคำสั่งของรัฐบาลกลางอย่างตรงไปตรงมา ส่งผลให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น และประธานาธิบดีสี ยังได้ให้คำมั่นไว้ด้วยว่าจะ “ลงโทษ” เจ้าหน้าที่ทุกคน ที่มีส่วนทำให้การระบาดของไวรัสอู่ฮั่นรุนแรง จนส่งผลเสียต่อทั้งโครงสร้างเศรษฐกิจ สังคม และอุตสาหกรรม ต่างๆ ในจีน

ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเป็นประธานประชุมรับฟังรายงานการป้องกันและควบคุมโรคระบาดในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 10 ก.พ.63 ที่ผ่านมา ภาพ: ซินหัว

“ผมได้รายงานต่อคณะกรรมการปูลิตบูโร ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. ให้จัดการกับการระบาดอย่างเต็มที่ วันที่ 20 ม.ค. ผมได้ออกคำสั่งพิเศษ เพื่อป้องกันการระบาด และได้พูดไว้แล้วว่า พวกเราทุกคนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด” ประธานาธิบดีสีพูดในที่ประชุม

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเรา (จีน) จะต้องเดินหน้าอุตสาหกรรมภายในประเทศต่อไป อัตราการบริโภค – การจับจ่ายใช้สอย, การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบ 5G จะต้องเติบโตมากขึ้นในปีนี้” ประธานาธิบดีสีให้ทิศทางกว้างๆ

หากประธานาธิบดีจีน พูดแบบในแถลงการณ์ที่ตีพิมพ์ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. จริง นั่นแสดงว่าประธานาธิบดี อาจรู้เรื่องการระบาดจาก “คนสู่คน” ตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.แล้ว เพราะมีการศึกษา ตีพิมพ์ใน The New England Journal of Medical ว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถระบาดจากคนสู่คนได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา

แต่สุดท้าย ทั้งรัฐบาลท้องถิ่น และรัฐบาลกลางกลับไม่มีมาตรการอะไรออกมา เพื่อให้เฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัส ตามที่ประธานาธิบดีสีสั่ง เพิ่งจะเริ่มมีหลังจากนั้น นานกว่า 2 อาทิตย์ ขณะเดียวกัน การควบคุม “ความสงบ” “ความปลอดภัย” และการ “ขาดแคลนเครื่องมือแพทย์” ไปจนถึงขาดแคลนอาหาร” ก็ดูจะล้มเหลวเช่นกัน โดยหลายเมือง ขาดแคลนสิ่งของจำเป็นตั้งแต่อาหาร ยารักษาโรค ชุดตรวจเชื้อไวรัส จนทำให้ผู้คนในหูเป่ยจำนวนมากเข้าไม่ถึงการรักษา

หวู่เฉียง นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ระบุว่าการปล่อยแถลงการณ์ต่อคณะกรรมการโปลิตบูโรของสีจิ้นผิง ถือว่าเป็นก้าวย่างที่น่าสนใจมาก เนื่องจากขณะนี้ ประธานาธิบดีจีนกำลังเผชิญมรสุม ทั้งแรงกดดันจากภายในประเทศ และในระดับนานาชาติ

“นี่ไม่ใช่เรื่องปกติแน่ ๆ สุนทรพจน์ที่ประธานาธิบดีกล่าวกับคณะกรรมการระดับสูงของพรรคนั้น สะท้อนชัดว่าท่านประธานาธิบดีพยายามจะปกป้องตัวเองจากข้อหาฉกรรจ์ที่หลายคนบอกว่าตัวเขา‘เพิกเฉย’ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และตัวเขาไร้ความสามารถในการบริหารวิกฤต” หวู่กล่าว

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของโควิด – 19 ทั่วโลก ตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคง “น่ากังวล” หลายเรื่อง สวนทางกับที่จีนบอกว่าสามารถจัดการได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการพบผู้ป่วยคนแรกในทวีปแอฟริกา พื้นที่ซึ่งองค์การอนามัยโลก กังวลว่าหากเกิดการระบาดจะไม่สามารถจัดการได้ ที่ประเทศอียิปต์, การเสียชีวิตของผู้ป่วยสุภาพสตรีชาวจีนคนแรกในทวีปยุโรป ที่ประเทศฝรั่งเศส, การเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยบนเรือสำราญ Diamond Princess ซึ่งเทียบท่าอยู่ที่เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น จาก 285 ราย เป็น 355 ราย หรือการที่มาเลเซีย ตรวจพบผู้ป่วยชาวอเมริกันจากเรือสำราญเวสเทอร์ดัม ซึ่งเทียบท่าในกัมพูชา และกัมพูชายืนยันไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ไม่พบผู้ป่วยบนเรือแม้แต่รายเดียว โดยขณะนี้ ผู้โดยสารจากเรือสำราญดังกล่าว ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาต้นทางหลายประเทศแล้ว และมีจำนวนไม่น้อย เดินทางมาเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ขอบคุณแหล่งที่มา

1.China says coronavirus curbs start to work; 70 more cases on cruise ship (www.reuters.com)

2.Xi Jinping ‘put China’s top echelon on notice’ in early days of coronavirus (www.scmp.com)

3.Coronavirus: 142 new deaths in China takes global toll to 1,669, as Nepal evacuates students from Wuhan (www.scmp.com)

ภาพจาก https://gisanddata.maps.arcgis.com/