ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สมาคมโรคติดเชื้อฯ แนะหน่วยงานของรัฐควรจัดหาหน้ากากอนามัยให้บุคลากรทางการแพทย์อย่างเพียงพอก่อน และจัดหาให้ประชาชนทั่วไปใช้งานเท่าที่จำเป็น พร้อมออกคำแนะนำการใช้หน้ากากอนามัยตามข้อบ่งชี้ ระบุซื้อไปใช้โดยไม่มีข้อบ่งชี้ ทำให้ขาดแคลน กระทบผู้จำเป็นต้องใช้ ส่งผลควบคุมโรคได้ยากขึ้น

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย เผยแพร่คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้หน้ากากอนามัย สำหรับประชาชนทั่วไปในสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา-2019 (COVID-19)

1.สำหรับประชาชนทั่วไปที่สบายดี

การใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาในที่สาธารณะ ไม่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และอาจเพิ่มความเสี่ยงหากใช้ไม่ถูกวี เพราะจะเพิ่มโอกาสของการใช้มือสัมผัสใบหน้า

2.ท่านควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อ

2.1 ป่วยเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากต้นทาง โดยสามารถลดปริมาณเชื้อที่ออกมาปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมเหลือ 1 ใน 3

2.2 ให้การดูแลผู้ป่วยโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจใกล้ชิด

2.3 เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องให้การดูแลผู้ป่วย

2.4 เข้าไปในสถานที่ที่มีคนแออัด อากาศถ่ายเทไม่ดี

3.หากท่านต้องการจะใส่หน้ากากอนามัย ควรใส่อย่างถูกต้อง

- ห้ามจับส่วนใด ๆ ของหน้ากากเมื่อใส่แล้ว

- สามารถใช้ได้นานจนกว่าจะสกปรกหรือขาดตราบใดที่ยังอยู่บนใบหน้า

- หากถอดแล้วต้องทิ้งเลย ห้าใช้ซ้ำ

- การใช้แอลกอฮอล์พ่นบนหน้ากากอนามัยไม่เกิดประโยชน์

 -ล้างมืออย่างถูกต้องก่อนและหลังใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

4.หน้ากากผ้าไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้

5.หน้ากากอนามัยชนิด N-95 ใช้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลผู้ป่วยใกล้ชิดขณะทำหัตถการเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเท่านั้น ผู้ป่วยทั่วไปไม่ควรใช้หน้ากากชนิดนี้ เพราะจะหายใจไม่พอเนื่องจากหน้ากากชนิดนี้แน่นมาอาจก่อให้เกิดอันตรายได้

การซื้อหน้ากากอนามัยไปใช้กันมาก ๆ โดยไม่มีข้อบ่งชี้ ทำให้เกิดการขาดแคลน ส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีความจำเป็นใช้จริง ๆ ทำให้ควบคุมโรคได้ยากขึ้น

สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยมีความเห็นว่า หน่วยงานของรัฐควรจัดหาหน้ากากอนามัยให้บุคลากรทางการแพทย์อย่างเพียงพอก่อน และจัดหาให้ประชาชนทั่วไปใช้งานเท่าที่จำเป็น