ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เย็นนี้ลูกชายถาม ขณะที่จะขับรถกลับบ้านกัน

คำถามนี้สำคัญยิ่งนัก เพราะข้อมูลข่าวสารที่กระจายกันในเครือข่ายสังคม ทั้งไลน์ เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และตามเว็บต่าง ๆ มันเยอะไปหมด ไปกันคนละทิศคนละทาง แม้จะมาจากฝั่งวิชาการก็อ่านแล้วงง

จึงขอสรุปโดยไม่ต้องมานั่งเถียงกันให้วุ่นวาย

คำถาม: ตกลงต้องใช้หน้ากากอนามัยไหม?

คำตอบ: "ถ้าหน้ากากที่ดี มีเหลือเฟือ" การใส่ก็จะดีกว่าไม่ใส่ครับ แต่ต้องแน่ใจว่าหน้ากากนั้นมีคุณภาพ ใส่แล้วพยายามไม่ไปจับหน้ากากส่วนนอกเพราะมือจะปนเปื้อนเชื้อโรคได้ การถอดหน้ากากควรถอดห่วงออกจากหูและไม่จับตัวหน้ากากด้านนอก ทิ้งให้เป็นที่เป็นทาง

"ถ้าหน้ากากที่ดี มีปริมาณจำกัด ดังสถานการณ์ปัจจุบัน" ควรใส่เฉพาะ 2 กรณีคือ สำหรับคนที่มีอาการไม่สบาย ไอ จาม เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่ไปยังผู้อื่น และสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วย

ในขณะที่คนที่ปกติดีนั้นไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากที่มีจำกัด เพราะหน้ากากอนามัยนั้นพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถป้องกันไวรัสได้

การไปซื้อหาของที่ไม่มีคุณภาพมาใส่นั้น จะทำให้เกิดอันตรายมากกว่าจะได้ประโยชน์ นอกจากป้องกันไม่ได้แล้ว ยังจะส่งผลให้คนใส่อาจประมาท นึกว่าใส่แล้วจะปลอดภัย จนอาจไปสัมผัสที่ต่าง ๆ มากมายจนมีความเสี่ยงมากขึ้นได้

สำหรับหน้ากากชนิด N95 นั้น ประชาชนไม่ควรใช้ เพราะใส่แล้วหายใจลำบาก อาจเป็นลมเป็นแล้งและส่งผลกระทบต่อสุขภาพรุนแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงอายุหรือคนที่มีสภาพไม่แข็งแรง หน้ากากชนิดนี้ควรเก็บไว้ใช้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์เถิดครับ

ที่สำคัญที่สุดคือ ลด ละ เลี่ยงการไปในที่ที่แออัด หรืออยู่ในระยะสั้น ๆ และล้างมือเป็นประจำ สองเรื่องนี้สำคัญยิ่งกว่าการไปเสาะหาหน้ากากมาใส่ครับ

ถ้าเมืองไทยช่วยกันรณรงค์ให้ทุกที่ ไม่ว่าหน่วยงานรัฐ ที่ทำงานของเอกชน ห้างร้านกิจการต่าง ๆ ทั้งเล็กและใหญ่ บ้าน วัด โรงเรียน ธนาคาร ตลาด จัดหาที่ล้างมือ และอุปกรณ์ที่จำเป็นเช่น เจลแอลกอฮอล์ ไว้ประจำทุกที่ทุกจุดที่เราเดินไปในชีวิตประจำวันเพื่อให้ทุกคนได้ใช้ นี่จะเป็นมาตรการที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุดที่เราพึงกระทำครับ

ด้วยรักต่อทุกคน

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย