ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 60 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสนามมวยและผับ ดันตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 272 ราย อธิบดีกรมควบคุมโรคชี้ยังมีสัมผัสเสี่ยงสูงบางรายออกไปยังสถานที่ที่ผู้คนแออัด ไม่กักตัวเองตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้การควบคุมโรคเป็นไปด้วยความยากลำบาก ย้ำหากรู้ว่าตัวเองเสี่ยงสูง ขอให้ร่วมกันรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อครอบครัวและต่อสังคมด้วยการกักกันตัวเองที่บ้านอย่างเคร่งครัด

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ประจำวันที่ 19 มี.ค. 2563 พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 60 คน ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในไทยเพิ่มเป็น 272 ราย

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 60 รายนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยหรือมีประวัติเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 43 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับสนามมวย 12 ราย ทั้งผู้ชม ญาติ ผู้ดูแลค่ายมวย เจ้าหน้าที่ที่ทำงานในสนามมวยในสนามมวยลุมพินี สนามมวยราชดำเนิน และสนามมวยจิตรเมืองนนท์

ถัดมาคือผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง 14 ราย มีทั้งดีเจ พนักงานทำความสะอาด พ่อครัว พนักงานเสิร์ฟ พิธีกร รองผู้จัดการร้าน แคชเชียร์ คนเที่ยว แฟนคนเที่ยว ทั้งจากย่านทองหล่อ สวนหลวง รามคำแหงและย่านสุขุมวิท

นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยที่สัมผัสผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้จำนวน 12 ราย เป็นทั้งเพื่อนร่วมงาน ภรรยา ผู้โดยสารร่วมเที่ยวบิน ลูกเรือสายการบิน แอร์โฮสเตส พนักงานคาร์โก้ และมีพฤติกรรมเสี่ยงดื่มเหล้าร่วมวง ทานข้าวร่วมกันเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันยังมีผู้เข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาในประเทศมาเลเซีย 5 ราย เป็นชาวไทยจากจังหวัดปัตตานีและยะลา

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 17 ราย แบ่งเป็น ผู้ที่กลับจากต่างประเทศ 9 ราย โดยมีประวัติเดินทางไปไต้หวัน ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี อินเดีย มาเลเซีย กัมพูชา ญี่ปุ่น เยอรมันและอิหร่าน ถัดมาคือบุคคลที่ทำงานใกล้ชิด สัมผัสกับชาวต่างชาติ 3 ราย โดยเป็นครูพี่เลี้ยง พนักงานเคาน์เตอร์เช็คอิน และเพื่อนต่างชาติมาพักอาศัยที่คอนโดมิเนียม นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยรายใหม่ที่ทำงานในสถานที่แออัดที่ต้องใกล้ชิดกับคนจำนวนมาก 1 ราย เป็นเทรนเนอร์ในสถานที่ออกกำลังกาย และสุดท้าย ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรอการสอบสวนโรคเพิ่มเติม 4 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้สื่อข่าว 1 ราย

สรุป ณ วันที่19 มี.ค. 2563 มีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 42 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 229 ราย อาการหนัก 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากข้อมูลจะเห็นว่ารายงานผู้ป่วยรายใหม่ซึ่งทำงานในสถานบันเทิง มีลักษณะงานทุกตำแหน่ง เรียกได้ว่าติดทั้งผับ ทั้งคนทำงาน คนเที่ยว รวมถึงคนในครอบครัว โดยตั้งแต่เริ่มมีการรายงานผู้ป่วยวันที่ 12 มี.ค. 2563 กระทรวงสาธารณสุขพบผู้ป่วยยืนยันในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงรวมทั้งสิ้น 57 ราย ถัดมาคือกลุ่มสนามมวย โอกาสติดเชื้อตั้งแต่ผู้จัด เจ้าของค่าย เซียนมวย พิธีกร ผู้ชม รวมไปถึงพิธีกรและคนใกล้ชิด ซึ่งเริ่มพบตั้งแต่ 14 มี.ค. 2563 ถึงปัจจุบันมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 52 ราย จะเห็นว่า 2 กลุ่มนี้รวมกันกว่าหลักร้อย พูดง่าย ๆ คือเป็นผู้ป่วยที่มีรายงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมในไทยเพิ่มจำนวนมากกว่าสองร้อยราย

นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า อีกประเด็นที่น่าสนใจคือในส่วนของสนามมวย พบว่าผู้ติดเชื้อส่วนหนึ่งเป็นผู้ชมที่มาจากต่างจังหวัด หมายความว่าผู้ป่วยนั้นมีโอกาสนำเชื้อกลับไปติดคนใกล้ชิดยังภูมิลำเนาหรือสถานที่ที่ตนเองเดินทางไป ที่สำคัญคือยังพบว่ามีบางคนที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแต่ยังคงออกไปยังสถานที่ที่ผู้คนแออัด ไม่ว่าจะเป็นสถานบันเทิง ร้านอาหาร โดยไม่มีการกักกันตัวเองตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นอันตรายมากในการแพร่โรคไปสู่ผู้อื่น และส่งผลให้การควบคุมป้องกันโรคเป็นไปด้วยความยากลำบาก

"ดังนั้นขอแนะนำประชาชนให้ลดและงดการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงการระบาด ไม่ออกนอกพื้นที่โดยไม่จำเป็น หากรู้ว่าตนเองเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ขอให้ร่วมกันรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อครอบครัวและต่อสังคมด้วยการกักกันตัวเองที่บ้านอย่างเคร่งครัด หากมีอาการไข้ เจ็บคอ มีน้ำมูก ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที" นพ.สุวรรณชัย กล่าว