ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุขเผยผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รักษาหายกลับบ้าน 13 ราย พบรายใหม่เพิ่ม 107 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 934 ราย ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 70 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 860 ราย อาการหนัก 4 ราย เสียชีวิต 4 ราย แนะประชาชนหากป่วย มีไข้ ให้รีบพบแพทย์ อย่าปกปิดข้อมูลประวัติเสี่ยง จะส่งผลต่อการวินิจฉัยและรักษาโรค

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์เขตสุขภาพที่10 และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข และคณะแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า วันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 107 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้

กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 27 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 4 ราย, กลุ่มสถานบันเทิง 5 ราย,กลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 14 ราย และกลุ่มที่ร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย 4 ราย

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 13 ราย ได้แก่ กลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ/ชาวต่างชาติ 6 ราย, กลุ่มผู้ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 5 ราย และบุคลากรทางการแพทย์ 2 ราย

กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อแต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 67 ราย

สำหรับผู้ป่วยอาการหนักมี 4 ราย ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยสรุป มีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 70 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 860 ราย เสียชีวิต 4 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 934 ราย

ขณะนี้ประชาชนที่ทำงานใน กทม.และปริมณฑล ได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา มีโอกาสนำโรคไปแพร่กระจายให้ผู้ใกล้ชิด กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุข สำรวจผู้เดินทางกลับภูมิลำเนา ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวแยกตนเองอยู่บ้าน 14 วัน ประชาสัมพันธ์มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) งดกิจกรรมรวมกลุ่มสังสรรค์ หากพบมีคนป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้มีโรคประจำตัวมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย ควรงดออกจากบ้าน เพื่อลดโอกาสรับเชื้อ ส่วนคนในบ้านที่ออกไปทำงานมีโอกาสไปรับเชื้อจากนอกบ้าน เมื่อกลับถึงบ้านให้ทำความสะอาดร่างกายทันที หมั่นล้างมือบ่อยๆ ให้เว้นระยะห่างในครอบครัวด้วย เพื่อป้องกันนำเชื้อโรคมาให้คนในครอบครัว

ขอความร่วมมือประชาชนทุกคน หากป่วย มีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจให้รีบพบแพทย์ทันที ให้ข้อมูลตามความจริง เพื่อจะได้วินิจฉัยรักษาได้ทันท่วงที ขอให้ทุกคนคำนึงถึงความปลอดภัยของแพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุข อย่าปกปิดข้อมูลประวัติเสี่ยง เพราะจะส่งผลเสียต่อการรักษาโรค ที่สำคัญเกิดความเสี่ยงต่อบุคลากร หากติดเชื้อจะส่งผลต่อการจัดบริการ ขาดผู้รักษาพยาบาลผู้ป่วย จะเกิดผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขอย่างมาก