ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)  นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า ช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม อภ. มีเป้าหมายจัดซื้อเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ป้องกันโรค COVID-19 ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย N95 และชุดป้องกันตนเอง PPE เกรดทางการแพทย์ ชนิดละประมาณ 6.67 แสนชิ้น พร้อมจัดหาอย่างต่อเนื่องชนิดละประมาณ 5 ล้านชิ้น เพื่อสำรองและจัดส่งให้บุคลากรทางการแพทย์มีใช้อย่างเพียงพอ โดยตั้งแต่วันที่ 2 -15 เมษายน 2563 ได้จัดซื้อและกระจายเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ดังนี้

หน้ากากอนามัย Surgical Mask ที่จัดซื้อและให้บริษัทไปรษณีย์ไทยเป็นผู้กระจายไปแล้วประมาณ 21.4 ล้านชิ้น

หน้ากากอนามัย N95 จัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้ไปแล้วและคงสำรองอยู่ที่โรงพยาบาลต่าง ๆประมาณ 2.28 แสนชิ้น รอจัดสรรและสำรองกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนที่ อภ.ประมาณ 8.7 หมื่นชิ้น

ชุด PPE (Coverall/Surgical Gown) พร้อมอุปกรณ์จำเป็นครบชุด จัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้ไปแล้วและคงสำรองอยู่ที่โรงพยาบาลต่าง ๆ ประมาณ 2.46 แสนชิ้น รอจัดสรรและสำรองกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนที่อภ.ประมาณ 1.1 หมื่นชุด

ยาฟาวิพิราเวียร์ จัดซื้อมาแล้วทั้งสิ้น 1.87 แสนเม็ด ได้ให้บุคลากรทางการแพทย์นำไปใช้แล้ว 5.45 หมื่นเม็ด และคงสำรองอยู่ที่โรงพยาบาลต่าง ๆ ประมาณ 3.06 หมื่นเม็ด รอจัดสรรและสำรองกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนที่อภ.ประมาณ 1.01 แสนเม็ด ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ได้จัดซื้อจากแหล่งผลิตทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สามารถจัดหาให้ได้ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ และขณะนี้ได้ปรับแนวทางการสั่งซื้อโดยขอให้สถานทูตจีนเป็นผู้ประสานเจรจาในการจัดหา เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งในเรื่องคุณภาพ ราคา และความน่าเชื่อถือของบริษัทด้วย

อภ.เปิดกว้างให้ผู้ผลิต/ ตัวแทนจำหน่าย (Supplier)หน้ากากอนามัย N95 /ชุด PPE ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีศักยภาพและผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองคุณภาพจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เข้ารับการคัดเลือกขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย ของ อภ.(GPO- COVID -19 Approved Vendor List) ซึ่งจะทำให้มีแหล่งในการจัดหาและสำรองเวชภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ช่วยลดความผันผวนของตลาด ให้การจัดหาเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้

ส่วนการตัดเย็บผลิตชุด PPE แบบซักใช้ซ้ำได้หรือชุดเสื้อคลุมแขนยาวกันน้ำชนิดใช้ซ้ำได้ (Reusable Isolation Gown) ใช้เองภายในประเทศจำนวน 40,000 ชุด นั้น ล่าสุด (วันที่ 17 เมษายน 63 ) ได้ประชุมร่วมกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และสหพันธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนจาก 12 บริษัทที่ผ่านเกณฑ์จาก อย. ทำความเข้าใจเรื่องคุณภาพการตัดเย็บ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพการซักซ้ำ และจะทดสอบอีกครั้งหลังตัดเย็บเรียบร้อยแล้ว หากผ่านการทดสอบแล้ว จะตัดเย็บเพื่อส่งมอบต่อไป ซึ่งคาดว่าจะทำให้มี ชุดPPE แบบ Isolation Gown ทดแทนได้ถึง 800,000 ชุด และจะทยอยตัดเย็บให้เพียงพอใช้ในประเทศ

ทั้งนี้ ผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย อุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่สนใจร่วมงานกับอภ. รวมทั้งหน่วยงานหรือประชาชนที่ต้องการทราบรายละเอียดผลการดำเนินงาน สถานะการรับและจัดส่งทรัพยากรและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ อภ. ดูแลรับผิดชอบ ได้ที่เว็บไซต์ www.gpo.or.th