ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.ชื่นชม อสม.เชียงใหม่ หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงภูเก็ตกลับภูมิลำเนาจ.เชียงใหม่ จากการเคาะประตูบ้านเฝ้าระวังเชื้อโควิด-19

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย มีประวัติเดินทางไปสถานที่ชุมนุมชน จ.ภูเก็ต ค้นพบจากการลงพื้นที่เคาะประตูบ้านของอสม. จ.เชียงใหม่

นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า ต้องชื่นชมทีมเชียงใหม่ หลังจากมีการย้ำเตือนทางผู้ว่าราชการทุกจังหวัดว่า หากมีการเดินทางจากพื้นที่มีความเสี่ยงสูงไปยังพื้นที่ความเสี่ยงต่ำต้องทำอย่างไร ซึ่งรายนี้เดินทางมาจากภูเก็ตไปเชียงใหม่ โดย อสม.มีข้อมูลจากชายไทยรายนี้พร้อมภรรยาและลูก จึงเข้าตรวจสอบทันที โดยส่งเชื้อตรวจสอบที่รพ.สันกำแพง ตรวจเชื้อพร้อมกันทั้งครอบครัว อย่างไรก็ตาม แม้จะทราบแหล่งที่มาของผู้ป่วยชายไทยรายนี้ แต่กำลังสอบสวนรายละเอียดเพิ่มเติม โดยล่าสุดทางทีมสอบสวนโรคได้ลงพื้นที่ไปสอบสวนเพิ่มเติมว่า มีการเดินทางอย่างไร ปฏิสัมพันธ์กับใครบ้าง ซึ่งทางภูเก็ตกำลังรอข้อมูลชุดนี้เช่นกัน ว่า ผู้ป่วยชายไทยคนนี้มีกิจกรรมอะไรบ้างก่อนออกจากภูเก็ต ซึ่งทางทีมงานภูเก็ตรอฟังข่าวทีมงานเชียงใหม่เช่นกัน

 

ผู้ทรงคุณวุฒิฯ กล่าวอีกว่า จากรายงานผู้ติดเชื้อพบว่า การไปในสถานที่ชุมชน ที่มีคนรวมกันจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยมีการระบาดของโรคยังมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ แนะนำประชาชนหากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น ตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือพื้นที่ที่มีความแออัด คนรวมกันจำนวนมาก ขอให้ป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น 1-2 เมตร พูดคุยกันเท่าที่จำเป็น จดรายการสินค้าที่ต้องซื้อ รีบไปรีบกลับ พกแอลกอฮอล์เจลสำหรับล้างมือ และไม่นำมือมาสัมผัสใบหน้า ตา จมูก ปาก เมื่อกลับถึงบ้านให้ล้างมือ อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันที เว้นระยะห่าง ไม่คลุกคลี ใกล้ชิดกับคนในบ้านโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัว คนชรา เด็กเล็ก เพราะหากป่วยอาจมีอาการรุนแรงได้

นอกจากนี้ ยังพบว่ามาตรการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เช่น กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ภูเก็ต ยะลา ของหน่วยงานด้านการปกครอง รวมถึงการลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงนั้นทำให้ค้นพบผู้ติดเชื้อและนำเข้าสู่ระบบการรักษาได้อย่างทันท่วงที ป้องกันการแพร่เชื้อเป็นวงกว้างในชุมชน