ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองอธิบดีกรมควบคุมโรคย้ำหน่วยบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วช่วยบันทึกข้อมูลในระบบให้เร็วที่สุดเท่าที่สามารถทำได้เพราะจะเป็นปัจจัยที่สำนักงบประมาณใช้พิจารณาขยายงบจัดซื้อวัคซีนในปีหน้า พร้อมชวนกลุ่มเสี่ยงรีบไปขอรับวัคซีนก่อนฤดูฝนนี้ ป้องกันความสับสนกับโควิด-19 เพราะอาการเริ่มต้นคล้ายคลึงกัน

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในการเสวนาเรื่อง "วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทางรอดใหม่จากโควิด-19" ซึ่งจัดโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เมื่อเร็วๆนี้ โดยกล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่เป็นปัญหาที่ใหญ่มากสำหรับประเทศไทย แต่ละปีมีคนไข้นับแสนรายและมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ทุกปี การได้รับวัคซีนจะช่วยลดความสูญเสียในส่วนนี้ลงได้โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่อยากให้ได้รับวัคซีนให้ได้มากที่สุด ทางกรมควบคุมโรคได้ร่วมกับ สปสช. พยายามอย่างเต็มที่ที่จะของบประมาณจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้และก็ทำได้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ

อย่างไรก็ดี ปริมาณวัคซีนที่ได้รับงบประมาณให้จัดซื้อแต่ละปีก็ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างที่ใจผู้ให้บริการต้องการ เพราะฉะนั้นวัคซีนมีอยู่อย่างจำกัดพอสมควร การให้บริการคือใครมาก่อนได้ก่อน ถ้าวัคซีนหมดก็หมดเลย และที่ผ่านมาก็ฉีดจนหมดและหมดเร็วทุกปี ดังนั้นอยากเชิญชวนให้กลุ่มเสี่ยงทุกคนรีบออกมารับวัคซีนให้เร็วที่สุดก่อนช่วงพีคของโรคซึ่งก็คือฤดูฝนที่จะถึงนี้

ขณะเดียวกัน ก็ฝากถึงผู้บันทึกข้อมูลซึ่งก็คือผู้ให้บริการว่าเราจะได้วัคซีนเพิ่มขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปริมาณการฉีดวัคซีนของหน่วยบริการ แม้ที่ผ่านมาในทางปฏิบัติจะฉีดวัคซีนจนหมด แต่ข้อมูลที่ส่งกลับมายังช้าหรือบางครั้งก็บันทึกข้อมูลไม่ครบ เพราะฉะนั้นอยากขอความร่วมมือผู้ให้บริการทุกคน โรงพยาบาลทุกแห่ง ว่า 1.ตรวจสอบว่าผู้ที่มาขอรับวัคซีนอยู่ในกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ และ 2.เมื่อให้บริการไปแล้ว ขอให้บันทึกข้อมูลเข้ามาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

"ตรงนี้เป็นผลระยะยาวและเป็นเรื่องความมั่นคงทางสุขภาพของคนไทย ถ้าเราอยากให้คนไทยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงไข้หวัดใหญ่ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นทุกปี ข้อมูลจะต้องดีด้วยเพราะเป็นจุดที่สำนักงบประมาณใช้ในการตัดสินใจว่าเราจะได้ขยายจำนวนการให้วัคซีนเพิ่มจากปีที่แล้วมากน้อยแค่ไหน ถ้ายอดการบันทึกข้อมูลกลับเข้ามาในระบบยังต่ำ แม้จะฉีดวัคซีนจนหมดอย่างรวดเร็ว แต่โอกาสที่เราจะได้วัคซีนในปีหน้าเพิ่มมากขึ้นก็ไม่ได้สูง เพราะฉะนั้นทั้งการปฏิบัติจริงและข้อมูลจะต้องไปด้วยกัน ตรงนี้ต้องรบกวนหน่วยบริการด้วยครับ"นพ.ธนรักษ์ กล่าว

นพ.ธนรักษ์ ยังกล่าวด้วยว่า การให้กลุ่มเสี่ยงรีบมารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ยังส่งผลดีต่อการบริหารจัดการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ด้วย เพราะอาการเริ่มต้นของไข้หวัดใหญ่กับโควิด-19 คล้ายกัน กลุ่มเสี่ยงของ 2 โรคนี้ก็คล้ายกัน อาการรุนแรงก็คล้ายกัน วิธีป้องกันโรคก็เหมือนกันอีก ดังนั้น ถ้ามีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มากขึ้นในช่วงฤดูฝนนี้ จะไปสร้างความสับสนในคลินิกโรคติดต่อทางเดินหายใจ การวินิจฉัยโรคสุดท้ายแล้วอาจต้องไปตรวจว่าติดเชื้ออะไรกันแน่ ดังนั้นหากสามารถลดจำนวนผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงลงก็ทำให้การจัดการโควิด-19 ง่ายขึ้นไปด้วย และไม่ไปแย่งชิงทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดของโรงพยาบาลจนทำให้การจัดการย่ำแย่ลงไป

ขณะเดียวกัน นอกจากกลุ่มเสี่ยงแล้ว การได้รับวัคซีนในบุคลากรทางการแพทย์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะแม้จะมีอาการโรคทางเดินหายใจเพียงเล็กน้อยก็ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง กรมควบคุมโรคได้รับผิดชอบการจัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้เพียงพอสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และขณะนี้จัดหาวัคซีนมาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นปีนี้อยากเชียร์ให้บุคลากรทางการแพทย์รีบไปรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกคน