ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายบุคลากรสาธารณสุข แต่งดำร้องทุกข์ “บิ๊กตู่”  ขอคืนความเป็นธรรมให้ “หมอชาญชัย” พร้อมขอธรรมาภิบาลกลับคืน ด้านศิษย์เก่าแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น เผย “อนุทิน” รับหนังสือแทน เบาใจรับปากให้ความเป็นธรรม

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล องค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น พร้อมด้วยเครือข่าย อาทิ สมาคมองค์กรแพทย์ รพ.ขอนแก่น , สมาคมศิษย์เก่าแพทยศาสตร์ขอนแก่น , ศิษย์เก่าแพทยศาสตร์ขอนแก่นรุ่นที่ 11 กลุ่มเพื่อนชาญ , องค์กรแพทย์และพยาบาล รพ.กาฬสินธุ์ และ รพ.ต่างๆ , ตัวแทนภาคประชาชน จ.ขอนแก่น ร่วมกันแต่งกายชุดดำ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม กรณีตั้งสอบวินัยร้ายแรง นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น จากข้อกล่าวหาเรียกรับเงินจากบริษัทยา โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับมอบหนังสือแทน

นพ.เฉลียว สัตตมัย ประธานศิษย์เก่าแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รุ่น ที่ 11 กล่าวว่า ที่มาเรียกร้องต่อท่านนายกรัฐมนตรี วันนี้ เพื่อขอให้มีการทบทวนเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงอันไม่เป็นธรรม ซึ่งนำไปสู่ความผิด และการสอบสวนด้านวินัยร้ายแรง และเรียกร้องให้มีการระงับคำสั่งโยกย้าย เพราะนพ.ชาญชัยไม่ได้มีพฤติกรรมข่มขู่ หรือขัดขวางการสอบสวนแต่อย่างใด ซึ่งนี่เป็นต้นเหตุจากการกล่าวหาทุจริตคอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง ซึ่งเท่าที่ดูทุกอย่างทำให้มีข้อกังวลเรื่องการถูกเลือกปฏิบัติ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบธรรมาภิบาลของกระทรวงสาธารณสุข

นพ.เฉลียว กล่าวต่อว่า ที่ทำให้มองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติเพราะตั้งแต่ นพ.ชาญชัย เข้ามาบริหารรพ.ขอนแก่น จากที่ติดลบก็ทำให้กลับมาเป็นบวกได้ แล้วจู่ๆ ก็มีการตั้งกรรมการสอบ ตนสอบถามไปที่นพ.ชาญชัยว่า ตั้งแต่เดือน มี.ค.2561 ยังมีการรับเงินหรือไม่ ซึ่งท่านยืนยันว่าเรื่องนี้ได้มีการประชุมกรรมการบริหารแล้ว มีการสั่งการห้ามรับเงินบริจาคจากบริษัทยา เป็นลายลักษณ์อักษร แต่กลับมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่มาจากบัตรสนเท่ห์ ว่ารพ.ขอนแก่นเรียกรับเงินจากบริษัทยา 5% แต่เท่าที่คุยกับทางรพ.ขอนแก่นกลับพบว่าไม่มีการสอบสวนคนที่ความเกี่ยวข้องที่สำคัญ แล้วอยู่ๆ ก็มีการตั้งข้อกล่าวหาว่ามีมูล ทั้งที่การสอบยังไม่รอบด้าน ทำให้มีข้อสงสัยคณะที่ลงมาสอบด้วย อีกทั้ง ยังมีการกล่าวหาว่าข่มขู่พยานจนเป็นที่มาของคำสั่งย้ายนพ.ชาญชัยไปอยู่ที่กระทรวง ส่วนการตั้งรักษาการมาแทนก็ยังเป็นบุคคลที่เคยถูกแต่งตั้งโยกย้ายมาเป็นผอ.รพ.ขอนแก่นเมื่อปี 2561 แต่บุคลากรรพ.ขอนแก่นคัดค้านตามที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวมาตั้งแต่ปี 2561 จนมีคำสั่งย้ายกลับ กระทั่งมาปีนี้ก็ถูกตั้งมาเป็นรักษาการอีก

“ที่เราต้องมาร้องถึงท่านนายกรัฐมนตรีในวันนี้ เพราะต้องการให้เรื่องนี้ดำเนินการไปอย่างยุติธรรม โปร่งใส และรวดเร็ว ที่เรามาก็เพื่อต้องการธรรมาภิบาลในระบบกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องบุคลลากรทางการแพทย์ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีความสุข ซึ่งวันนี้ท่านอนุทิน เป็นผู้มารับมอบหนังสือแทน และท่านรับปากว่าจะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาอีก 1 ชุดคู่ขนาน ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่จะมีการสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการเปิดเผยข้อมูลว่ารพ. ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 186 แห่ง รับเงินบริษัทยาด้วย ท่านบอกว่าจะรวบเรื่องที่รพ.ขอนแก่นด้วยเป็นเรื่องเดียวกันด้วย ซึ่งก็ต้องขอบคุณที่ท่านมารับฟังปัญหาของพวกเราและให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ถือว่าพึงพอใจในระดับหนึ่ง”นพ.เฉลียว กล่าว

สำหรับ จดหมายเปิดผนึกของเครือข่ายประชาชนอีสานเพื่อความยุติธรรม(คปอธ.) ระบุใจความหนึ่งว่า นพ.ชาญชัยเป็นหมอที่รักของชาวบ้านโดยเฉพาะชาวขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงอย่างมาก ไม่ว่าจะรับฝีมือความสามารถในการบริหาร ความโปร่งใสใจซื่อมือสะอาด ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล คปอธ.ไม่ได้ต้องการที่จะห้ามผู้บังคับบัญชาหรือบุคคลหน่วยงานใดแตะต้องนพ.ชาญชัย แต่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรมในกระบวนการที่กำลังจัดการ โดยขอให้ยึดหลักธรรมาภิบาล ใน 2 คือ ให้ความเป็นธรรม นพ.ชาญชัยทบทวนการโยกย้าย การสอบวินัยและการตั้งข้อกล่าวหาที่รุนแรง หรือ หากยืนยันย้ายนพ.ชาญชัยไปปฎิบัติหน้าที่ที่กระทรวงชั่วคราวระหว่างการสอบสวนก็ขอให้รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นเป็นผู้รักษาการผู้อำนวยการแทนเพื่อรักษาขวัญและกำลังใจของบุคลากรโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นทั้งปวง

นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับทุกฝ่ายแล้ว และได้หารือกับ นพ.ชาญชัย แล้วเช่นกัน ซึ่งท่านเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม ที่ผ่านมา เมื่อมีแรงกดดันว่าไม่ต้องการประธานสอบ ก็มีการเปลี่ยนแปลงให้ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ในระเบียบบริหารราชการ ปัญหาที่เกิดขึ้น อยู่ในความรับผิดชอบของปลัดกระทรวงฯ ซึ่งทางรัฐมนตรีได้สั่งการไปแล้วว่าห้ามย้ายขาดใคร จนกว่าเรื่องจะถึงที่สุด ท่านก็รับทราบ และทางรัฐมนตรี ได้สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง เรื่องข้อกล่าวหาว่ามีโรงพยาบาลในสังกัดของกระทรวงรับเงินจากบริษัทยา ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีนายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ เป็นประธาน และจะเข้ามาดูกรณีของนายแพทย์ชาญชัยด้วย ยิ่งกว่านั้น หากเรื่องนี้ ไปถึง อกพ.ของกระทรวงฯจะมีการตั้งคณะกรรมการ มีรัฐมนตรีเป็นประธาน ถึงจุดนั้นก็พร้อมจะเข้ามาดูอย่างเต็มที่ ขอย้ำว่า ไม่เคยนิ่งเฉยในเรื่องนี้ แต่ทุกอย่างต้องว่าไปตามกฎระเบียบ

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :

กก.สอบข้อเท็จจริง 186 รพ.เรียกรับเงิน นัดแรก 15 มิ.ย.นี้ หาข้อมูลมีจริงหรือไม่

ภาพจาก FB : สมาพันธ์แพทย์ รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป