ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. นั่งปธ.ประชุม อ.ก.พ.สธ. หาทางออกปัญหาบรรจุขรก.สธ. 4.5 หมื่นตำแหน่ง มีมติให้การบรรจุรอบ 2 และ 3 พร้อมกัน หลังแบ่ง 3 รอบ ย้ำต้องให้คนผ่านคุณสมบัติปฏิบัติงานโควิด19

หลังจาก ครม.มีมติบรรจุตำแหน่งข้าราชการให้บุคลากรสาธารณสุขปฏิบัติงานโควิด-19 จำนวน 45,684 ตำแหน่ง ล่าสุดพบว่ามีบุคลากรสาธารณสุขส่วนหนึ่งพบปัญหามีคุณสมบัติ แต่ชื่อตกหล่น และอื่นๆอีก ขณะที่การบรรจุตำแหน่งแบ่งออกเป็น 3 รอบ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กังวลว่า จะไม่ทัน และอาจตกหล่น ซึ่งมีการประชุม อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันที่ 19 มิ.ย.2563

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. 63 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมช.สธ.) ในฐานะประธานการประชุม อ.ก.พ. กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า สำหรับการบรรจุข้าราชการของบุคลากรสาธารณสุขภายใต้การปฏิบัติงานด้านโควิด-19 ซึ่งได้กรอบอัตรากำลังจำนวน 45,684 ตำแหน่ง โดยที่ประชุมวันนี้ ได้พิจารณาหลักเกณฑ์การบรรจุข้าราชการตามที่ ครม. คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) และคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) กำหนด ให้กับบุคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่หน้างาน และสนับสนุนการปฏิบัติงานโควิด 19 โดยบรรจุรอบแรกในวันที่ 29 มิถุนายน 2563 และจะทยอยบรรจุให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานโรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลรอบต่อไปในเดือนกันยายน 2563

 

“โดยในวันนี้ ยังมีการพิจารณาว่า ส่วนที่เป็นปัญหาจะแก้ไขอย่างไร เช่น กรณีมีตำแหน่งแต่ไม่มีตัวคน ต้องมาปรับเกณฑ์ใช้หลักการเดิม เพียงแต่ต้องมาพิจารณาว่าภายใต้หลักการ 2 ข้อ คือ ผู้ปฏิบัติหน้างานกับผู้สนับสนุน และเรามีการเลื่อนการบรรจุข้าราชการในส่วน รพ.สต. ที่มีความเหมาะสม ที่มีการปฏิบัติหน้าที่หน้างาน เดิมเราตั้งไทม์ไลน์บรรจุรอบ 3 ช่วงเดือนพ.ย. เนื่องจากไม่มีเงินพอ ต้องใช้งบประมาณปี 2564 แต่มาวันนี้ การบรรจุข้าราชการรอบแรก เราช้าไป 1 เดือน ประกอบกับมีเงินเหลือจ่ายที่เพียงพอเหลือจ่ายการบรรจุเร็ว เราจึงเลื่อนการบรรจุรอบ 3 เป็นการบรรจุรอบเดียวกับรอบ 2 โดยต้องทำให้เสร็จก่อนเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นมติที่ประชุมครั้งนี้” นายสาธิต กล่าว

รมช.สธ. กล่าวอีกว่า ส่วนแต่ละกลุ่มสาขาวิชาชีพ หากไม่ได้อยู่ในสายงาน 24 สายงานตามมติครม. คงไม่ได้ และส่วนอื่นที่มีจำนวนมากกว่าอัตราที่มี ซึ่งหน่วยงานที่ดูแลจะไปจัดการ โดยจะดูเกณฑ์ประเมินจะเป็นในเชิงรายละเอียด โดย อ.ก.พ. สธ. จะพิจารณากรอบใหญ่ แต่ให้นโยบายชัดเจนว่า การได้รับการจัดสรรอัตราข้าราชการครั้งนี้ เราต้องการสนับสนุนคนที่ปฏิบัติหน้างานสถานการณ์โควิด และอยู่ในตำแหน่งการจ้างตามเกณฑ์ เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติ หลังจากนี้ก็จะดูว่า เมื่อบรรจุไปแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังมีขาดตกบางส่วน ก็ต้องมาดูในอัตราที่เราได้แต่ละปีหรือกรอบ FTE ที่ได้ เพื่อดึงแต่ละส่วนเข้ามาให้ได้มากที่สุดตามกฎกติกาของก.พ.

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีการร้องเรียนว่ามีคุณสมบัติครบแต่ตกหล่น และยังมีปัญหาการบรรจุข้าราชการทั้งที่ปฏิบัติหน้างาน นายสาธิต กล่าวว่า ตนได้บอกผอ.บริหารงานทรัพยากรบุคคลของกระทรวงสาธารณสุข ว่าให้สื่อสารให้ครบถ้วน ผู้ตรวจฯ อธิบดีทุกคนต้องชี้แจงว่า หลักการอยากบรรจุทุกคน แต่ได้อัตรามาแค่นี้ ก็ต้องจัดสรรด้วยความเป็นธรรม ส่วนไหนไม่ได้ต้องได้รับคำตอบว่าไม่ได้เพราะอะไร ทำไมก.พ. หรือ อ.ก.พ. ไม่ได้เพราะอะไร แต่หากใครมีเรื่องทุกข์ใจและต้องการคำตอบให้มาถามทางผอ.บริหารงานทรัพยากรบุคคลของกระทรวงฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมการแบ่งการบรรจุข้าราชการปฏิบัติงานด้านโควิด19 เดิมกำหนดออกเป็น 3 รอบ คือ รอบแรกช่วงเดือน พ.ค. 2563 รอบที่ 2 ช่วงเดือน ส.ค. 2563 และรอบ 3 ช่วงเดือน พ.ย. 2563 แต่ล่าสุดมติ อ.ก.พ.สธ.ให้บรรจุรอบ 2 และ 3 คราวเดียว