ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โควิด-19 ล่าสุดวันนี้(22 มิ.ย.) ปลอดเชื้อในประเทศ 28 วัน สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มีมติให้วัดทุกแห่งกลับมาทำกิจกรรมทางศาสนาได้ทุกประเภท แต่ต้องคงมาตรการควบคุมป้องกันโรค

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวประเด็นโควิด-19 ว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 วันนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย เดินทางมาจากอินเดียอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ทำให้มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 3,151 ราย กลับบ้านได้ 3,022 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 71 ราย และยอดผู้เสียชีวิตคงเดิม 58 ราย ส่วนการติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์รายครบเป็นวันที่ 28 รายแล้ว รวมเป็น 4 สัปดาห์ จึงต้องขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่ช่วยกันดูแลตัวเอง และขอบคุณร้านค้าผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือในการจัดทำระบบเข้าออก ทำให้ภาครัฐทำงานง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามการการใช้ชีวิตวิถีใหม่ อาจจะมีความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในวิถีชีวิตเดิม แต่จะทำให้ทุกคนมั่นใจว่าจะไม่มีการระบาดซ้ำ

นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์

ด้าน นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงงานบวช งานบุญวิถีใหม่ ว่า เนื่องจากขณะนี้ใกล้เข้าสู่ช่วงเข้าพรรษา เพื่อเป็นการควบคุมป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จึงต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด แบ่งเป็นช่วงก่อนเข้าพรรษาขอให้พระภิกษุสงฆ์ดูแลสุขภาพ ไม่ไปพื้นที่เสี่ยง ชุมชนอย่างน้อย 14 วัน หากจำเป็นขอให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา หากมีความผิดปกติ โดยเฉพาะอาการทางเดินหายใจควรมารับการตรวจ ส่วนที่วัดก็เน้นย้ำเรื่องการทำความสะอาดพื้นที่วัดโดยรอบ การตั้งจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิ ลงทะเบียนออนไลน์ ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ดูแลสถานที่ให้อากาศถ่ายเทสะดวก ลดความแออัดในสถานที่ปิด ไม่ว่าจะเป็นพระอุโบสถ และศาลาวัด ลดจำนวนคนเข้าไปร่วมกิจกรรม

นพ.วีรวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนช่วงเข้าพรรษาไม่ต่างกัน พระภิกษุต้องดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายที่เหมาะสมวันละ 30 นาที ฉันอาหารให้ครบ 5 หมู่ หากมีปัญหาเกิดขึ้น โดยเฉพาะการมีโรคติดต่อในวงกว้างระหว่างเข้าพรรษาสามารถติดต่อรพ. ใกล้บ้านเพื่อเข้าไปดูแล ตรวจรักษายังพื้นที่ เพราะเข้าใจว่าอาจจะไม่สะดวกมาที่รพ.และที่สำคัญคือขอความร่วมมือประชาชนที่จะไปทำบุญที่วัดขอว่าการ์ดอย่าตก ต้องมีพฤติกรรมสุขภาพส่วนบุคคลที่เข้มข้น ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า รวมถึงภัตตาหารที่นำไปประเคนต้องคำนึงถึงการปลอดเชื้อโควิด-19 เพราะพระภิกษุท่านอยู่ในวัด เราไม่ควรนำเชื้อเข้าไป

ด้าน นายสาโรจน์ กาลศิริศิลป์ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้มีวัดที่อยู่ในการดูแลของสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศ 4.2 หมื่นแห่ง ภิกษุ สามเณร ประมาณ 3 แสนรูป ซึ่งก่อนหน้านี้ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ทาง สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ได้มีคำสั่งให้วัดทุกแห่งงดทำกิจกรรมทางศาสนาทุกประเภท ซึ่งพบว่าวัดทุกแห่งปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สถานการณ์ล่าสุดโรคโควิด-19 คลี่คลายแล้ว ดังนั้นสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม จึงมีมติให้วัดทุกแห่งกลับมาทำกิจกรรมทางศาสนาได้ทุกประเภทแล้ว แต่ต้องคงมาตรการควบคุม ป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งได้ส่งหนังสือคำสั่งไปยังทุกจังหวัดแล้ว

“ขณะนี้สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มีมติแล้วให้วัดทุกแห่งสามารถทำกิจกรรมทางศาสนาทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นฟังเทศน์ ฟังธรรม งานบวช งานเวียนเทียนต่างๆ แต่ต้องมีการคัดกรอง วัดไข้ มีเจลล้างมือ จัดให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลพอสมควร ถ้าเยอะมากอาจจะต้องแบ่งเป็นรอบๆ เช่นเดียวกับการเวียนเทียนถ้าคนเยอะต้องระวัง ให้เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก มีเจลล้างมือ วัดที่เป็นที่ท่องเที่ยวต้องระวังให้มาก ที่ผ่านมาวัดมีการให้ประชาชนลงทะเบียนในสมุด เพราะแอพฯ ไทยชนะ บางแห่งมี บางแห่งไม่มี เรื่องนี้ต้องมีการปรึกษากันต่อ” นายสาโรจน์ กล่าว

นายสาโรจน์ กาลศิริศิลป์

เรื่องที่เกี่ยวข้อง