ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศบค.เผยเตรียมเสนอ ครม. 30 มิ.ย.พิจารณาขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ถึง 31 ก.ค. 63 ส่วนคลายล็อกเฟส 5 มี “ผับบาร์- อาบอบนวด” เปิดได้แต่ต้องทำตามเกณฑ์ข้อกำหนด

จากกรณีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เตรียมพิจารณาผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 5 หรือ คลายล็อก เฟส 5 โดยหนึ่งในกิจการ/กิจกรรมที่พิจารณาคลายล็อกดาวน์ และเตรียมอนุญาตให้เปิดได้ คือ สถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ รวมไปถึงอาบ อบ นวด โรงน้ำชา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2563 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า (ศบค.) ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงข่าวภายหลังการประชุมใหญ่ ศบค. ว่า แม้ขณะนี้ไทยปลอดเชื้อในประเทศ 35 วัน แต่สถานการณ์ของโลกยังพบเชื้อ จึงยังต้องป้องกันตนเองเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม

โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับการประชุมวันนี้มีการพิจารณาเรื่องมาตรการการผ่อนคลายครั้งที่ 5 ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ร้านสะดวกซื้อทั้งหลายได้ 24 ชั่วโมง ส่วนผับบาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ เช่น โรงเบียร์ โรงเหล้า ลานเบียร์นั้น ให้บริการได้ถึงไม่เกิน 24.00 น.ทุกกรณี ระยะนั่ง/ยืน 1 เมตร จำกัดผู้ใช้บริการตามขนาดพื้นที่ ห้ามร่วมโต๊ะกับกลุ่มอื่น ระยะห่างโต๊ะมากกว่าหรือเท่ากับ 2 เมตร หรือมีฉากกั้นสูงมากกว่า 1.50 เมตร มีระบบระบายอากาศ และระบบหมนุเวียนอากาศที่ดี มีพื้นที่สูบบุหรี่เฉพาะส่วนบุคคล ทุกคนละเบียนเข้าออกสถานที่ผ่านแอฟฯ ไทยชนะ และให้คำแนะนำลูกค้าตามมาตรการก่อนใช้บริการ

ส่วนสถานประกอบกิจการ อาบ อบ นวด โรงน้ำชานั้น ต้องมีใบอนุญาตสถานบริการถูกกฎหมาย และที่สำคัญห้ามค้าประเวณี ซึ่งกฎหมายห้ามอยู่แล้ว  ข้อปฏิบัติอื่นๆ คือ ทุกคนลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ด้วยแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” หรือจดบันทึกรายงานแทนได้ ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย/ผ้า /เฟซชิลด์ตลอดเวลา ยกเว้นขณะอาบน้ำ ทำความสะอาดห้อง/อ่างอาบน้ำห้องสุขาพื้นผิวสัมผัสร่วมบ่อยๆ ก่อน-หลังบริการแต่ละครั้ง

“ส่วนการจะขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้น จะมีการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันพรุ่งนี้(30 มิ.ย.) เพื่อขอขยายไปอีก 1 เดือน ซึ่งมีความจำเป็นในเรื่องการใช้อำนาจทางกฎหมายในการป้องกันโรค  ซึ่งสามารถควบคุมเรื่องการเข้าออกของคน แต่พ.ร.บ.โรคติดต่อไม่สามารถทำได้ รวมทั้งการทำระบบกักกันตัว เกิดขึ้นได้เพราะใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ  รวมถึงการเปิดปิดกิจการต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยควบคุมโรคได้ทันการ และการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯทำให้เกิดภาพรวมของการทำงานทุกภาคส่วนอีกด้วย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว