ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดำเนินคดี “18 คลินิก” เบิกงบบัตรทองเกิน พร้อมชงสภาวิชาชีพฟันจริยธรรม และขยายผลเชิงลึก จ่อสอบ 63 คลินิกเพิ่ม

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ส่งเรื่องถึงสบส.ให้ตรวจสอบเพิ่มเติมคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่ง มีการปลอมแปลงเอกสารเบิกงบตรวจสุขภาพผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) พื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า สิ่งที่สบส.ดำเนินการ คือ 1. มีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่คลินิกทั้ง 18 แห่ง และ 2. ออกหนังสือเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ และ 3.การสอบถามข้อมูลไปถึงบริษัทที่ทำแลป

“สปสช.ได้ตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นแล้วก่อนส่งมาถึงเรา และจากการที่เราลงไปสอบข้อเท็จจริงและเรียกมาให้ข้อมูลก็พบว่าสอดคล้องกับที่ สปสช.พบ อีกทั้ง ผู้แทนคลินิกเหล่านั้นให้การยอมเอง จึงมอบให้นิติกรของ สบส.ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว ในกรณีสถานพยาบาลจัดทำเอกสารแสดงผลการรักษาอันเป็นเท็จ ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล 2541” นพ.ธเรศ กล่าว

อธิบดี สบส. กล่าวต่อว่า พฤติกรรมแบบนี้เป็นความผิดตามมาตรา 73 พ.ร.บ.สถานพยาบาล ผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น ผู้รับอนุญาต ผู้ดำเนินการ หรือเจ้าหน้าที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะเดียวกัน สบส.อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนเชิงลึกลงไปอีกว่าการทำหลักฐานเท็จนี้ ก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ป่วยอย่างไรหรือไม่ ถ้ามีความเสียหายก็จะมีการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีก อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ เนื่องจากผู้ดำเนินการคลินิกเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จึงจะส่งเรื่องไปยังสภาวิชาชีพพิจารณาตรวจสอบและดำเนินการทางด้านจริยธรรมด้วย

นพ.ธเรศ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่สปสช. มีการตรวจสอบขยายผลแล้วพบว่ามีคลินิกชุมชนอบอุ่นอีก 63 แห่ง มีพฤติกรรมเข้าข่ายแบบเดียวกับคลินิก 18 แห่งนั้น ทางสบส. ก็จะดำเนินการแบบเดียวกัน คือจะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบ และเชิญมาให้ข้อมูลต่อไป