ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคลงพื้นที่ตรวจสอบผับบาร์ สถานบันเทิง จ.ชลบุรี พบไม่ให้ความร่วมมือจัดพื้นที่ปลอดบุหรี่ภายใน นักท่องเที่ยวยังฝ่าฝืน หนำซ้ำมีการโฆษณาส่งเสริมการขาย เร่งขอความร่วมมือฝ่าฝืนมีโทษ

ค่ำวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรค ทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ลงพื้นที่บังคับใช้กฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 และมาตรการห้ามโฆษณา ส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามกฎหมายโรคติดต่อ หลังมีมาตรการผ่อนปรน ระยะที่ 5

สำหรับในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 6 นี้ กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จ.ชลบุรี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อเฝ้าระวังบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบสถานบันเทิง 7 แห่ง ไม่จัดให้บริเวณพื้นที่ให้บริการเป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย รวมถึงยังพบนักท่องเที่ยวที่เข้าใช้บริการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าภายในผับ บาร์ กรมควบคุมโรค จึงขอความร่วมมือไปยังสถานบันเทิงทุกแห่ง และประชาชนผู้เข้าใช้สถานที่ ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เนื่องจากการสูบบุหรี่ในบริเวณพื้นที่ผับ บาร์ สถานบันเทิง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตรา 42 และหากเจ้าของสถานบันเทิงไม่ดำเนินการจัดให้สถานที่เป็นเขตปลอดบุหรี่ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ตามมาตรา 43 พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการทำโฆษณา และการส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งการลดราคา และการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือลักษณะแจก แถม ให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ของกรมควบคุมโรค เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามกฎหมายโรคติดต่อ หลังมีมาตรการผ่อนปรน ระยะที่ 5 ในครั้งนี้ ทำให้เห็นได้ว่ายังมีผู้ประกอบการและประชาชนบางส่วน ละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐกำหนด และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่าที่ควร ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์โรคโควิด 19 กลับสู่สภาวะปกติช้าลงได้

“จึงขอแจ้งเตือนไปยังเจ้าของกิจการสถานบันเทิง และนักท่องเที่ยวผู้มาใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด การ์ดอย่าตก เพื่อให้การดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพ ฟื้นฟูธุรกิจ เศรษฐกิจให้กลับคืนมามากที่สุด หากประชาชนมีข้อสงสัยเพิ่มเติมในการปฏิบัติตามกฎหมาย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422” อธิบดีฯ กล่าว