ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับพื้นที่จัดรถตรวจเชื้อนิรภัยพระราชทาน 5 คัน บริการเชิงรุกตรวจหาโควิด-19 ฟรี! ให้ผู้ชมคอนเสิร์ต “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” 4-5 ส.ค.63 ที่ว่าการอำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช

ตามที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีการเล่นคอนเสิร์ตของ “เจนนี่ รัชนก” เจ้าของค่ายเพลงดัง “ได้หมดถ้าสดชื่น” ที่มีดราม่าถึงมาตรการการป้องกันโควิด-19 ขณะที่ด้านนายศิริพงศ์ ศรีพยางค์ นายอำเภอชะอวด แจ้งความดำเนินคดีกรณีดังกล่าวแล้ว เนื่องจากการแสดงคอนเสิร์ต ในคืนวันที่ 25 ก.ค.63 ไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ที่ 5/2563 เรื่องแนวทางปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามข้อ 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนในชั้นจับกุม และขั้นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทางคดีมีพยานหลักฐานพอฟ้อง จึงเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาตามกฎหมายแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งกับทางกระทรวงสาธารณสุข ว่า ในวันที่ 4 - 5 ส.ค.2563 ตั้งแต่เวลา 9.00 - 15.00 น . กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ หน่วยงานในพื้นที่ ขอให้ผู้ที่ชมคอนเสิร์ตเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่นที่ผ่านมาเข้าตรวจหาเชื้อโควิด- 19 ฟรี! โดยได้เตรียมรถตรวจโรคติดเชื้อนิรภัย พระราชทาน จำนวน 5 คันรองรับให้บริการตรวจเชิงรุก ที่หน้าที่ว่าการอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธฺบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า  กรม ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้พิจารณาดำเนินการเฝ้าระวังเชิงรุกให้กับผู้ที่เข้าขมคอนเสิร์ตในวันดังกล่าว โดยสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19ได้ฟรี ณ หน้าที่ว่าการอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่ 4-5 สิงหาคม  2563  ตั้งแต่เวลา 9.00 - 15.00 น. โดยจัดเตรียมนำรถรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน 5 คันไว้ให้บริการ ซึ่งเป็นการเฝ้าระวังเชิงรุกให้กับประชาชนที่เข้าชมคอนเสิร์ตดังกล่าวที่อาจจะมีความกังวลจากการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ที่ถือเป็นกิจกรรมที่มีความสุ่มเสี่ยงที่อาจจะเกิดการแพร่เชื้อโรคโควิด-19ได้ 


 “กรณีคอนเสิร์ตนี้ไม่เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นที่จ.ระยองซึ่งมีการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโรคโควิด-19ในพื้นที่ แต่กรณีที่อ.ชะอวดนี้ไม่ได้มีการตรวจพบผู้ป่วยยืนยัน แต่เป็นเหตุการณ์ที่ถือว่ามีความสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคอย่างมาก เพราะมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคตามที่รัฐกำหนด จึงจำเป็นต้องเข้าไปเฝ้าระวังเชิงรุกในพื้นที่  และการดำเนินการเช่นนี้ไม่ได้เป็นมาตรฐานสำหรับทุกกรณีที่มีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐ แต่จะมีการพิจารณาเป็นรายกรณีไป ทั้งนี้ ขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดในพื้นที่ที่มีการฝ่าฝืนไม่ทำตามมาตรการที่รัฐกำหนด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน” นพสุวรรณชัยกล่าว

ภาพจากเฟซบุ๊ก : น้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

 

ภาพจากเฟซบุ๊ก : น้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง