ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

จับตาประชุมครม. 13 ส.ค. เสนอชื่อปลัดสธ.คนใหม่หรือไม่ ด้านกลุ่มคนรักหลักประกัน ชี้คุณสมบัติปลัดสธ.ต้องเห็นหัวประชาชน ไม่ใช่แค่หมอ บุคลากรสาธารณสุข ต้องมีธรรมาภิบาล เข้าใจบทบาทระบบหลักประกันสุขภาพ

ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาพูดถึงสเปกปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คนใหม่แทน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย.นี้ ว่า ต้องเป็นคนที่ได้รับการยอมรับ มีความเป็นธรรม ทำงานกับทุกภาคส่วน และกับรัฐมนตรีฯได้ โดยมอบนโยบายไปต้องดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งเผยมีในใจแล้วนั้น

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : “อนุทิน” เผยสเปกปลัด สธ.คนใหม่ ต้องทำงาน รมว.สธ.ได้ (คลิป)

                           : จับตา 3 แคนดิเดตว่าที่ “ปลัด สธ.” คนใหม่

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ , พญ.พรรณพิมล วิปุลากร, นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต และ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย

ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า จะมีการเสนอชื่อว่าที่ปลัดสธ.คนใหม่ในการประชุมครม.นัดวันที่ 13 ส.ค. ซึ่งเลื่อนมากจากวันที่ 11 ส.ค. เนื่องจากต้องรอรัฐมนตรีใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ ก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยแคนดิเดตปลัดสธ.ทั้ง 4 รายชื่อที่มีโผหลุดออกมานั้น ประกอบด้วย พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย อายุราชการถึงปี 2564  นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต อายุราชการถึงปี 2565  นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์  อายุราชการถึงปี 2565 และ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค อายุราชการถึงปี 2566    ซึ่งมีข่าวว่า ก่อนหน้านี้ในการประชุม ครม.สัปดาห์ก่อนมีการเสนอชื่อเข้าไป แต่ไม่ได้รับการพิจารณา แว่วว่าอาจมีการเสนอชื่อที่ไม่ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ต้องรอพิจารณาว่าในการประชุมครม. ครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่  เนื่องจากกระแสข่าวล่าสุดติดขัดการพิจารณารายชื่อ เนื่องจากยังไม่ลงตัวว่า คุณสมบัติท่านใดเหมาะสมที่สุด  ดังนั้น อาจมีความเป็นไปได้ที่จะไม่เสนอครม.ครั้งนี้ อาจเลื่อนไปอีกก็เป็นได้

นายนิมิตร์ เทียนอุดม กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า สำหรับปลัดสธ. คนใหม่นั้น ตามที่มีแคนดิเดตออกมา 4 ท่านก็น่าสนใจดี แต่คุณสมบัติที่ทางภาคประชาชนอยากได้มาทำงานเพื่อพี่น้องทุกคนนั้น คือ ต้องมือสะอาด เห็นหัวประชาชน หมายถึงต้องเข้าใจถึงระบบสุขภาพ ว่า ไม่ได้มีเฉพาะหมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเท่านั้น แต่มีภาคประชาชน ซึ่งต้องทำงานร่วมกัน

“ที่ผ่านมาความร่วมมือกันอาจไม่ได้มากนัก อย่างการประสานการพูดคุย ปลัด สธ.ก็รับฟัง แต่ทำได้หรือไม่ก็ว่ากันอีกที ประเด็นใหญ่ คือ เมื่อฟังแล้วพอปฏิบัติ จริงๆต้องชวนกันไปติดตามด้วย ยกตัวอย่าง การตัดเงินบัตรทอง ปลัดรับปากว่าไม่ตัด แต่ทางปฏิบัติก็มีปัญหา จนต้องมีการขับเคลื่อน ดังนั้น ไม่ว่าเรื่องอะไรต้องตามต่อเนื่อง และต้องเปิดทางให้เกิดการประสานงานร่รวมกัน” นายนิมิตร์ กล่าวและว่า นอกจากนี้ อยากให้ปลัดสธ.คนใหม่ เข้าใจบทบาททั้งสองฝ่าย คือ ทั้งส่วนกระทรวงสาธารณสุข และบทบาทของระบบหลักประกันสุขภาพ ว่า ทั้งสองระบบต้องทำงานด้วยกัน ไม่ใช่ว่า กระทรวงต้องใหญ่กว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสปสช.ต้องเล็กกว่า คิดแบบนี้ไม่ได้ แต่ต้องคิดว่าทั้งสองระบบต้องทำงานด้วยกัน ทั้งระบบจ่ายเงิน ระบบการรักษา หากทำงานประสานกันย่อมต้องดี

“ที่สำคัญและขาดไม่ได้คือ ธรรมาภิบาล ต้องมีมากๆ ความรู้จักรับผิดรับชอบ รู้ว่าอะไรอยู่ในส่วนรับผิดชอบของใคร ล้วนเกี่ยวข้องหมด แต่ก็พูดยาก ช่วงแรกๆอาจดี แต่หลังจากนั้นก็ต้องติดตามกันต่อไป อีกอย่างที่อยากให้เข้าใจสำหรับคนที่จะมาบริการกระทรวงฯ มาบริหารโรงพยาบาล ต้องเลิกคิดกำไร ขาดทุน เพราะรพ.รัฐคิดแบบนี้ไม่ได้ จะขาดทุนยังไง เพราะเงินเดือนมาจากระบบราชการ ส่วนงบลงทุนก็มีการตั้งงบประมาณของรัฐ ต้องคิดว่า งบประมาณที่มีอยู่จะบริหารอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ และจะกระจายงบให้เป็นธรรมอย่างไร ทุกอย่างก็ต้องพิจารณาถึงธรรมาภิบาลอยู่ดี” กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าว

นายนิมิตร์ เทียนอุดม

เรื่องที่เกี่ยวข้อง