ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงต่างประเทศช่วยเหลือคนไทยที่ต้องการกลับ ผ่านระบบป้องกันโรคเข้มตั้งแต่เม.ย.จนล่าสุดรวมว่า 6.9 หมื่นคน ด้านกรมการแพทย์ เตือนคนไทยตกค้างเข้ากรุ๊ปไลน์ รับคำปรึกษาสุขภาพ

เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามให้การช่วยเหลือคนในไทยที่อยู่ในต่างประเทศในช่วงการระบาดของโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการมอบถุงยังชีพ การให้คำปรึกษาทางด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต และติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศในการให้การดูแลรักษาคนไทยที่ติดเชื้อเมื่ออยู่ต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังให้การช่วยเหลือคนไทยที่ต้องการกลับมายังประเทศไทย จากวันละ 200 ราย เป็น 600 ราย โดยมีการคัดกรองสุขภาพก่อนเดินทางและกลับมากักตัวยังสถานที่กักแยก โดยตั้งแต่เม.ย.ที่- ปัจจุบันมีการพาคนไทยกลับมายังประเทศไทยแล้วกว่า 6.9 หมื่นคน รอเดินทางกลับเข้ามาในวันที่ 16 ส.ค.นี้ จากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย 50 คน จากปรุงปารีส และสหรัฐอเมริการวมๆ ร้อยกว่าคน   

ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้การดูแลคนไทยในต่างประเทศ เบื้องต้นมีการจัดทีมแพทย์ พยาบาล 10 ทีม ทีมละ 5-6 คน ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ด้านโรคติดเชื้อ ด้านโรคปอดและระบบทางเดินหายใจ เข้าไปอยู่ในกรุ๊ปไลน์ของสถานกงสุลและคนไทยในต่างประเทศ แบ่งเป็นรายประเทศ เพื่อให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลตัวเอง ส่วนกรณีประชาชนมีความกังวล หรือมีปัญหาสุขภาพก็จะมีการทำเทเลเมดิซีนร่วมด้วย 

ทั้งนี้ จากการให้คำปรึกษาผ่านกรุ๊ปไลน์ พบว่ามีคนไทยจำนวนหนึ่งที่มีปัญหาสุขภาพ มีโรคประจำตัวอื่นๆ อาทิ เบาหวาน ความดัน มะเร็ง โรคสมอง และอื่น ซึ่งรายต้องการกลับเข้ามารักษาตัวในเมืองไทยก็จะมีการประสานงาน และจัดหาสถานพยาบาลรองรับ เป็นฮอทพิทัล ควอรันทีน  คือเข้ามาเพื่อรับการรักษาโรคประจำตัว และกักตัวตัวไปด้วย

ที่น่าห่วงตอนนี้คือที่เกาหลีใต้ ซึ่งมีแรงงานจำนวนหนึ่งที่เข้าเมืองแบบผิดกฎหมายทำให้เวลาเจ็บป่วยไม่กล้าที่จะไปรับการรักษา เข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุขของประเทศนั้นๆ เช่น เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ก็มีแรงงานป่วยสโตรก คือเส้นเลือกสมองแตก ก็ต้องดูแลกันต่อไป ฉะนั้นตอนนี้คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศที่ยังไม่ได้อยู่ในกรุ๊ปไลน์ ขอให้ติดต่อสถานกงสุล เพื่อเข้ากรุ๊ปที่มีแพทย์ไทยคอยดูแลให้คำปรึกษาอยู่ 

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับคำแนะนำแก่คนไทยในต่างประเทศตอนนี้ มีหลายประเทศที่สถานการณ์ระบาดยังรุนแรง ก็ขอให้หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน หากจำเป็นต้องออกไปนอกบ้าน ขอให้เข้มงวดเรื่องมาตรการควบคุมป้องกันโรคส่วนบุคคลคือการสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และอย่าลืมพกเจลแอลกอฮอล์ติดตัวเพราะไม่รู้ว่าออกไปแล้วจะต้องสัมผัสกับอะไรบ้าง ซึ่งอย่างที่เรารู้ๆ กันคือเชื้อโควิด-19 สามารถอยู่บนพื้นผิวได้นาน กลับเข้าบ้านต้องอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ทันที แม้กระทั่งประเทศที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ก็ขอให้คงมาตรการแบบเดียวกัน 

อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่ประชาชนกังวลว่าคนที่พ้นการกักตัว 14 วันแล้วยังมีอาการ หรือว่าติดเชื้อซ้ำได้หรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า การกักตัวจะอยู่ในระยะ 14 วัน หากไม่มีเชื้อสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ถ้าระหว่างกักตัวแล้วตรวจเจอเชื้อก็ต้องรักษาจนหาย และเริ่มนับระยะปลอดภัยกันใหม่ แต่ยืนยันว่าถึงแม้ตรวจไม่เจอเชื้อแล้วแต่ยังมีอาการไข้ ไอ ก็จะไม่มีการอนุญาตให้ออกจากสถานที่แยกกัก และขอชี้แจงด้วย จากข้อมูลหลักฐานจนถึงปัจจุบันยังไม่รายงานว่ามีผู้ป่วยหายแล้วจะเกิดการติดเชื้อซ้ำแต่อย่างใด