ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน ชาญวีรกูล” ย้ำ รัฐมนตรี เป็นผู้วางนโยบายไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ให้ความเป็นธรรมมากที่สุด ดูแลให้ดีที่สุด แต่คำว่า ดูแล ไม่ใช่ต้องบรรจุทุกคน เพราะมีอัตรา มีเกณฑ์กำหนด ซึ่งข้าราชการประจำเป็นผู้ดำเนินการ

ตามที่ชมรมเจ้าพนักงานเวชสถิติทั่วประเทศ ขอความเห็นใจนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. รวมทั้งผู้บริหารที่เกี่ยวข้องขอให้ความเป็นธรรม และแจ้งความคืบหน้าแนวทางเยียวยาทั้งบรรจุข้าราชการโควิด-19 และเงินเพิ่มพิเศษบุคลากรทำงานโควิด หลังจากเจ้าพนักงานเวชสถิติไม่ได้รับสิทธิ์ทั้งคู่นั้น 

(อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : จพ.เวชสถิติ ขอ สธ.แจ้งความคืบหน้าแนวทางช่วยเหลือหลังชวด “บรรจุขรก.-เงินเพิ่มพิเศษ” ) 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการสธ. ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ ว่า ขอย้ำว่าไม่มีทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่มีขั้นตอนในการดำเนินการอยู่ อย่างไรก็ตาม มีวิธีการวางนโยบายชัดเจน ซึ่งระบบราชการ จะมีอัตราอยู่ งบประมาณก็ต้องคำนึงถึง ที่ผ่านมาอัตราข้าราชการไม่มี จึงต้องจ้างเป็นพนักงาน ลูกจ้างชั่วคราว แต่เมื่อมีจากการปฏิบัติงานโควิด19 จึงให้มีการบรรจุ แต่ก็มีกรอบอัตราที่จำกัด ซึ่งการคัดเลือกก็เป็นไปตามกระบวนการ

ผู้สื่อข่าวถามกรณีเงินเพิ่มพิเศษ ซึ่งทางกลุ่มเวชสถิติแจ้งว่าไม่ได้รับและมองว่าไม่เป็นธรรม นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์มองตามมุมมองทุกคน แต่ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข มีเกณฑ์กำหนด แต่ตรงนี้ไม่ใช่สิ่งที่รัฐมนตรีเป็นคนกำหนดกฎเกณฑ์ เพราะกฎเกณฑ์เป็นไปตามระเบียบราชการ ส่วนรัฐมนตรีวางนโยบายว่า ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ให้ความเป็นธรรมมากที่สุด ดูแลให้ดีที่สุด แต่คำว่าดูแล ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องบรรจุทุกคน เพราะยังมีเรื่องอัตรา ซึ่งก็ต้องไปขอสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) อยู่ดี โดยอัตราก็เต็ม ต้องรอตำแหน่งเกษียณอายุราชการ ตำแหน่งเปิดใหม่ ตรงนี้จะเป็นเรื่องของข้าราชการประจำไปจัดกรอบอัตราขึ้นมา