ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สสส.ร่วมพันธมิตรครั้งใหญ่ ขยายงานนวัตกรรม “โคแฟค” (Cofact) ตรวจสอบข่าวลวง สู่การสร้างชุมชนค้นหาความจริง ปฐมนิเทศจิตอาสาตรวจสอบข่าวลวงรุ่นแรก

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ธนาคารจิตอาสา มูลนิธิฟรีดิช เนามัน และภาคีเครือข่ายป้องกันและตรวจสอบข่าวลวง จัดงานเสวนานักคิดดิจิทัลครั้งที่ 11 เปิดตัวโคแฟค "ทำไมความจริงร่วมจึงสำคัญ" พร้อมปฐมนิเทศจิตอาสาพัฒนาทักษะด้านเท่าทันสื่อและสุขภาวะทางปัญญารุ่นแรก

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ประเทศไทยมีสถานการณ์การระบาดของข่าวลวง อาทิ การหลอกขายสินค้า ภัยพิบัติ สุขภาพ ซึ่งหากประชาชนไม่เท่าทันสื่อตกเป็นเหยื่อ หรือส่งต่อข่าวปลอมโดยไม่รู้ตัว แนวทางการแก้ปัญหาและหยุดยั้งการระบาดของข่าวลวงในยุคชีวิติวิถีใหม่ (New Normal) จึงจำเป็นที่จะต้องมีกลไกกลางที่เปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้มาแสวงหาข้อเท็จจริงร่วมกัน โดยจุดประกายด้วยนวัตกรรม โคแฟค (Collaborative Fact Checking : Cofact) บนเว็บไซต์ cofact.org และไลน์ @cofact พร้อมสานพลังขับเคลื่อนสังคมขยายผู้ใช้ไปยังภาคีเครือข่าย เกิดเป็น “ชุมชนโคแฟค” และสร้างค่านิยมใหม่โดยใช้พลังพลเมืองในการร่วมตรวจสอบข่าวลวง ที่ทุกคนสามารถเป็น fact cheker เกิดพื้นที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงประเด็นสุขภาวะร่วมกัน

​น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้งโคแฟค กล่าวว่า โคแฟคเป็นนวัตกรรมทางสังคมในการนำแอปพลิเคชั่นไลน์ แชตบอท และฐานข้อมูลในเว็บไซต์ มาช่วยตรวจสอบข้อมูลว่าจริงหรือลวง แต่การจะขับเคลื่อนกลไกโคแฟคให้สำเร็จได้จริงนั้น จึงต้องขยายงานจากการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ ไปสู่การสร้างชุมชนเพื่อการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถือเป็นภารกิจการปฏิรูปสื่อในยุคดิจิทัลที่หันกลับมาสร้างความเข้มแข็งในภาคพลเมือง ให้การแก้ไขข่าวลวงด้วยหลักวารสารศาสตร์ เช่น การสืบค้นข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือก่อนเสมอ กลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ของสังคม

​นายธีระพล เต็มอุดม ผู้อำนวยการร่วมธนาคารจิตอาสา กล่าวว่า ปัจจุบันข่าวลวงมีหลากหลายรูปแบบ ประชาชนไม่ทันได้ตรวจสอบข้อมูล การมีจิตอาสาที่เข้าร่วมกระบวนการตรวจเช็คข่าวลวงจึงจำเป็นจะต้องมีทักษะทั้ง 2 ด้าน คือ 1. ด้านตรรกะความคิดในการตรวจสอบข่าว และ 2. ด้านทักษะในการสะท้อนคิด เข้าใจและเท่าทันตัวเอง การปฐมนิเทศครั้งแรก ธนาคารจิตอาสามุ่งต่อยอดสู่การสร้างจิตอาสาที่เป็นกำลังสนับสนุนที่แข็งแรง ทั้งในด้านการเช็คความจริงของข่าว และการดูแลคนแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากข่าวลวง

​ดร.ณภัทร เรืองนภากุล รองคณบดีคณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และผู้ประสานงานเครือข่ายโคแฟคภาคเหนือ กล่าวว่า ผลกระทบของข่าวลวงต่อชีวิตนั้นเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก ข้อมูลลวงที่ถูกผลิตซ้ำ ๆ จะทำให้เกิดความเชื่อผิด ๆ ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น เราต่างทราบกันดีว่าพลังของพลเมืองนั้นมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนและเปลี่ยนผ่านสังคม กลไกของโคแฟคตอบโจทย์ทั้งการเก็บข้อมูลและการมีส่วนร่วม เหมาะสมกับวิถีของคนยุคดิจิทัล จึงเชื่อว่าการเข้าร่วมเป็นจิตอาสาเครือข่ายโคแฟค (ภาคเหนือ) จะทำให้ทุกพื้นที่ได้ฝึกการใช้วิจารณญาณ เปิดใจรับความเห็นต่าง ร่วมกันตรวจสอบข่าวลวง ทำให้สังคมไทยก้าวสู่การเป็นสังคมที่รู้เท่าทันสื่อส่งผลต่อคุณภาพในการดำเนินวิถีชีวิตต่อไป

ทั้งนี้ โคแฟค เชิญชวนทุกท่านให้มาเป็นชาวชุมชนคนโคแฟคร่วมกันค้นหาความจริง เพื่อสร้างสุขภาวะของสังคม สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับที่เว็บไซต์ www.cofact.org