ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองนายกฯ -รมว.สธ.กำชับใช้งบค้างท่อ ยกเลิกสัญญารับเหมาก่อสร้างทิ้งงาน ทำข้อมูลให้ชัดไว้ผลักดันนโยบายต่างๆ เร่งขับเคลื่อนงานปฐมภูมิ  30 บาทรักษาทุกที่

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)  พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ร่วมเปิดงานแสดงผลงานวิชาการและการประชุมเชิงปฏิบัติงานเพื่อจัดทำแผนงานรองรับนโยบายสำคัญด้านสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ภายใต้แนวคิด ก้าวข้ามความท้าทาย สู่อนาคตสาธารณสุขไทย

 

นายอนุทินกล่าวว่า ตลอด 1 ปีที่เข้ามาทำงาน สธ.สามารถขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ได้ตามเป้า บางอย่างก็เกินเป้า แม้ช่วงโควิด 19 จะทุ่มสรรพกำลังมาทำในเรื่องนี้ จนไม่ได้ขับเคลื่อนนโยบายด้านอื่น แต่ช่วง เม.ย.เป็นต้นมา เมื่อสถานการณ์เริ่มคงที่ก็สามารถขับเคลื่อนนโยบายอื่นๆ ต่อได้ และเป็นแบบนิวนอร์มัล สำหรับปีงบประมาณ 2564 มีปลัดกระทรวงคนใหม่ ผู้บริหารใหม่ ไม่ขอเพิ่มนโยบายอะไรมาก เพราะมีหลายนโยบายอาจจะไม่สำเร็จ แต่ขอให้เดินหน้าสานต่อนโยบายที่ดีอยู่แล้วให้สำเร็จ ร่วมมือกันทำงาน ส่วนการทำงานของตนกับ รมช.สาธารณสุขแม้มาจากต่างพรรคแต่ก็หารือกันตลอด ทำงานร่วมกันได้ดี ไม่มีใครเป็นเด็กของรัฐมนตรีคนไหน

นายอนุทินกล่าวว่า สิ่งที่อยากฝากไว้ คือ เรื่องการจัดทำระบบรายงานข้อมูล เพื่อให้ตนมีข้อมูลไปต่อสู้ผลักดันนโยบายต่างๆ ได้ อย่างการบรรจุข้าราชการ 4.5 หมื่นกว่าคนก็เพราะมีข้อมูลที่ชัดเจนไปอธิบายได้ หากข้อมูลคลาดเคลื่อนผิดพลาด ทุกอย่างจะล่าช้าลง ขณะที่การทำงานอยากให้เป็นศุนย์กลางประสานกับหน่วยงานสาธารณสุขภายนอกกระทรวงเหมือนเป็นท้าวแชร์ อย่าไปมองว่าเป็นของโรงเรียนแพทย์ ของกทม. ทหาร แล้วไม่เกี่ยวกับเรา แต่เราต้องเป็นผู้ประสานงานในเรื่องสาธารณสุขทั้งหมด

นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนเรื่องงบประมาณขอให้เร่งรัดเรื่องงบประมาณค้างท่อ มิเช่นนั้นทำงบประมาณขาขึ้นก็ลำบาก เพราะมองว่ายังใช้งบไม่หมดแล้วมาขออีก โดยเฉพาะงบก่อสร้างอาคาร รพ.ต่างๆ หลายแห่งเจอปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน หากผู้รับเหมาทำผิดก็ยกเลิกสัญญา ไม่ต้องกลัวฟ้องร้อง อย่างไรผู้ว่าจ้างก็ได้เปรียบ ไม่มีทางเสียเปรียบ สามารถเรียกเงินประกันคืนได้อีก อีกทั้งยังมีตนที่เคยอยู่แวดวงนี้ก็ให้คำปรึกษาได้ เหมือนใช้วิธีโจรจับโจร และยังมี รมช.สธ.เป็นทนายความก็ยิ่งไม่ต้องกลัว

 

นายอนุทินกล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2564 ยังให้ความสำคัญสูงสุดต่อการพัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริและโครงการเฉลิมพระเกียรติเพื่อเทิดพระเกียรติพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และกำหนดจุดมุ่งเน้นเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ใน 5 ประเด็น ได้แก่ 1.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถ อสม. หมอประจำบ้าน สนับสนุนให้คนไทยทุกครอบครัว มีหมอประจำตัวครบ 3 คน 2.เศรษฐกิจสุขภาพ  เพิ่มมูลค่านวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการสุขภาพ สู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ยิ่งประคองควบคุมโรคโควิด 19 ได้ดี ต่างชาติก็อยากเข้ามาท่องเที่ยว ลงทุน หรือเข้ามารักษาพยาบาล 3.ผลักดัน สมุนไพร กัญชา กัญชง  4.ขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกที่ ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างมีคุณภาพและลดความเหลื่อมล้ำ และ 5.ยึดหลัก ธรรมาภิบาลโปร่งใส ในการบริหาร ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้

 

 

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สิ่งที่ตนจะขับเคลื่อนในเชิงป้องกันสุขภาพ คือ อาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกาย ซึ่งแต่ละคนมีอาชีพและไลฟ์สไตล์ต่างกัน จะต้องส่งเสริมกระตุ้นให้ออกกำลังกายตามแบบที่ชอบและสะสมจนเป็นนิสัย และอารมณ์ หากทำได้ดีก็ลดเจ็บป่วย ลดค่าใช้จ่าย ส่วนแง่การรักษาให้ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์มาช่วยในการบริการประชาชน ลดแออัด ลดรอคอย เข้าถึงบริการได้มากขึ้น เป็น New Normal Medical Care โดยขอให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลต่างๆ ปรับปรุงระบบข้อมูลภายใน 1 ปี ให้เป็น Digital Health Platform เดียวกัน 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง