ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เลขาธิการ สปสช. อยู่ระหว่างออกแบบการเบิกจ่าย ทำระเบียบก่อนออกประกาศดำเนินงาน “30 บาทรักษาทุกที่สำหรับบริการปฐมภูมิ” เริ่มกทม.ขยายปริมณฑล 1 พ.ย.63 ย้ำไม่ใช่ทุกโรค เป็นโรคไม่ซับซ้อน กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ส่วนโรคมะเร็งมีศูนย์ประสานงานส่งต่อจัดการเริ่ม 1 ม.ค.64

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้สัมภาษณ์ถึง Hfocus ถึงกรณีมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) เห็นชอบยกระดับการบริการหลักประกันสุขภาพฯ ลดขั้นตอนการรับบริการ อำนวยความสะดวกประชาชนสิทธิบัตรทอง พร้อมเดินหน้า “30 บาทรักษาทุกที่” ในหน่วยบริการปฐมภูมิ ว่า จริงๆ เรื่องนี้อาจเข้าใจคลาดเคลื่อน ยังไม่ได้มีการให้บริการรักษาทุกรพ.ทั่วประเทศ แต่เป็นการนำร่องในบางพื้นที่ และเป็นหน่วยบริการระดับปฐมภูมิ อย่างพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก็จะเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิในรูปแบบคลินิกชุมชนอบอุ่น ตั้งเป้า 500 แห่ง ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย.2563

“โดยการดำเนินการรักษาทุกที่ในระดับปฐมภูมินั้น ขณะนี้ทางสปสช.กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังวางรูปแบบทั้งระเบียบการดำเนินงาน การออกแบบการจ่ายเงิน ซึ่งจะออกเป็นระเบียบและประกาศของสปสช.ในเร็วๆนี้ เพื่อให้ทันพ.ย.นี้ ส่วนนอกนั้นก็เป็นไปตามมติบอร์ด แต่ขอย้ำว่าการรับบริการหน่วยบริการปฐมภูมินั้นจะเป็นโรคไม่ซับซ้อนมาก เช่น โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นต้น แต่อย่างโรคมะเร็งก็รักษาได้ในรพ.ที่มีศักยภาพ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ป่วยมะเร็งจะเดินเข้าไปรักษาได้หมด แต่จะต้องผ่านศูนย์ประสานงานส่งต่อ กรณีโรคมะเร็งตั้งเป้าไว้วันที่ 1 ม.ค.2564” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าว HFocus ถามว่าคลินิกปฐมภูมิจะเริ่มในกทม.และปริมณฑลนั้น จะวางรูปแบบอย่างไร นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า จริงๆ จะเริ่มบริการพื้นที่กทม. และต่อด้วยปริมณฑล ซึ่งการคัดเลือกนั้นก็จะเป็นแบบให้แต่ละเขตมีหน่วยบริการปฐมภูมิประมาณ 5-6 แห่งเข้ามา โดยขั้นแรกจะให้บริการทุกที่ตามเขตนั้นๆ ยังไม่ได้ข้ามเขต แต่ระยะต่อมาหากวางระบบได้ ก็จะขยายการบริการข้ามเขต ซึ่งตรงนี้ขอให้รอความชัดเจนจากประกาศ สปสช.ก่อน

“ส่วนแนวคิดข้อเสนอของนพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่เสนอเรื่องการเปิดคลินิกประจำเขตของกทม. โดยมีผู้ป่วยบัตรทองเข้ามาเป็นหุ้นส่วนนั้น รวมถึงแนวคิดของภาคเอกชนหลายๆ ที่ ก็เป็นแนวคิดที่ดีที่จะเข้ามาร่วมกันดูแลสุขภาพประชาชน ทั้งนี้ก็ต้องมีการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงข้อกำหนดเรื่องมาตรฐานสถานพยาบาลต่างๆ และมาตรการในการรักษาผู้ป่วย เป็นต้น” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว