ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคแถลงภาพรวมหลังตรวจคัดกรองพบ “พนักงานขับรถเมียนมา” ติดเชื้อรวม 3 ราย โดย 2 รายไม่มีอาการพบเชื้อวันที่ 9 ต.ค. ส่วนอีก 1 รายตรวจคัดกรองแรงงนในชุมชน ล่าสุดส่งกลับรักษารพ.เมียวดี

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2563 ที่กรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุช(สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้ากรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด19 บริเวณชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่า ตามที่มีข่าวเกี่ยวกับชาวเมียนมาพบการติดเชื้อที่แม่สอด จ.ตาก ขอเรียนในภาพรวมว่า การดำเนินการในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขนั้น ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการมาตรการเชิงรุก การคัดกรองกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ทั้งในกลุ่มคนขับรถที่มีการเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างชายแดน และมีมาตรการเฝ้าระวังต่างๆ ทำให้พบกลุ่มเสี่ยง และผู้ติดเชื้อได้รวดเร็ว

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า สถานการณ์ในฝั่งเมียนมาพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และบางรายพบในจ.เมียวดี ซึ่งอยู่ตรงข้ามอ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ตั้งแต่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รพ.แม่สอด ร่วมกับหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายความมั่นคงดำเนินการตรวจพนักงานขับรถบรรทุกสินค้า เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 2563 โดยตรวจไปแล้วจำนวน 55 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อ

จากนั้นวันที่ 9 ต.ค.2563 คัดกรองพนักงานขับรถบรรทุกสินค้า 60 ราย ผลเป็นบวก 2 ราย ผลเป็นลบ 57 ราย โดยผู้ติดเชื้อชาวเมียนมาทั้ง 2 รายไม่มีอาการป่วย และได้ส่งตัวไปรักษาที่รพ.เมียวดี และถัดมาในวันที่ 10 ต.ค. 2563 ทีมสอบสวนโรคได้ลงพื้นที่ที่พนักงานขับรถ 2 คนมาส่งสินค้า พบว่าเกี่ยวข้องกับโกดัง 2 แห่ง คือ โกดังอารี และโกดังสิงห์รุ่งเรือง  นอกจากนี้ ยังพบพนักงานขับรถเมียนมาติดเชื้ออีก 1 ราย   อย่างไรก็ตาม ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิด 74 รายมีการตรวจเชื้อไม่พบผลบวก สรุปคือ ขณะนี้มีพนักงานขับรถชาวเมียนมา 3 รายติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก ซึ่งทั้ง 3 รายส่งไปรักษาที่ รพ.เมียวดีเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนในพื้นที่ได้รับคำแนะนำเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อต่อไป

ส่วนฝั่งเมียนมาเองที่มีผู้สัมผัสกับพนักงานขับรถก็ได้ส่งยังสถานที่กักตัวของเมียนมาแล้ว ก็ต้องติดตามอีก 14 วัน ส่วนวันนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนการดำเนินงานคัดกรองโรคพื้นที่ โดยมีรถพระราชทานในการเก็บตัวอย่างเพื่อเฝ้าระวังคัดกรองโรค ชุดตรวจน้ำยาพีซีอาร์ และทีมสอบสวนโรคไปปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ามีการดูแลและป้องกันการแพร่เชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกินความคาดหมาย เพราะเรามีโอกาสพบผู้ป่วยในประเทศได้อีก สิ่งสำคัญไม่ใช่การป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยในประเทศเลย เพราะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำได้ คือ การป้องกัน โดยไม่ให้การพบผู้ป่วย 1 คน 2 คน กลายเป็นระบาดในประเทศ โดยเราต้องป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดในวงกว้าง อย่างที่พบพนักงานขับรถเมียนมา 3 คน สิ่งสำคัญคือ ต้องป้องกันไม่ให้กระจายวงกว้าง ทั้งการตรวจคัดกรองเชิงรุก การเฝ้าระวังรอบด้าน และคนในพื้นที่ต้องไม่ตระหนก การรับรู้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้ และเข้าใจว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ การจัดการโควิดเป็นเรื่องใหญ่ กระทรวงสาธารณสุขจัดการหน่วยงานเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจทุกภาคส่วน ยังคงขอให้ปฏิบัติตัวเหมือนเดิมอย่างเคร่งครัด ซึ่งไม่ได้ยุ่งยาก ใส่หน้ากากอนามัย ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น อย่าไปในที่ชุมชน ล้างมือบ่อยๆ ใช้ช้อนกลางประจำตัว เป็นต้น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง