ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

​กรมอนามัย แนะกลุ่มเปราะบางทั้งทารก เด็กเล็ก และผู้สูงอายุดูแลสุขภาพ ช่วงหน้าหนาวเป็นพิเศษ รักษาความอบอุ่นร่างกาย หากปล่อยให้ตัวเย็นเกินไป อาจทำให้เสียชีวิต

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่องการเริ่มต้นฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ. 2563 โดยระบุว่า ประเทศไทย เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มวัยที่ควรดูแลเป็นพิเศษคือกลุ่มทารกและกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งในวัยนี้ยังมีการควบคุมอุณหภูมิในร่างกายยังไม่สมบูรณ์ และมีไขมันใต้ผิวหนังน้อย อาจเกิดภาวะตัวเย็นเกิน โดยจะมีอาการตั้งแต่อ่อนเพลีย ท้องอืด ซึมลง หายใจช้าชีพจรเต้นช้า ปัสสาวะลดลงจนหมดสติและอาจเสียชีวิตในที่สุด จึงควรดูแลเด็กเล็กให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอด้วยการสวมเสื้อผ้า เครื่องกันหนาวถุงมือ ถุงเท้าและสวมหมวก

นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเวลานอน อวัยวะที่ต้องดูแลคือ ศีรษะ ลำคอ และหน้าอก เพื่อให้ระบบการไหลเวียนของร่างกายเป็นไปตามปกติ เพราะหากในช่วงหน้าหนาว เกิดเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ ไข้หวัดขึ้นมา อาจส่งผลกลายเป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมได้ในที่สุด จึงควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำในเวลากลางคืน หรือถ้าไม่สามารถเลี่ยงได้ก็ควรมีการยืดเส้นยืดสายเพื่อสร้าง ความอบอุ่นให้กับร่างกายก่อนอาบน้ำ และหากอาบน้ำอุ่นต้องระวังไม่อาบน้ำนาน และปรับอุณหภูมิน้ำร้อนจนเกินไป เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีสภาพผิวหนังที่แห้งง่าย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับผิวหนัง หรือคนที่เป็นโรคเบาหวานต้องระวังอย่าให้ผิวแห้งแตก หากเกิดเเผลจากการเกา อาจทำให้อักเสบและเกิดโรค แทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้

นอกจากนี้ควรนอนหลับพักผ่อน ให้เพียงพอวันละ 7 – 9 ชั่วโมงต่อคืน กินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ที่สำคัญควรกินอาหารปรุงสุก อุ่นให้ร้อน เพื่อเพิ่มอุณหภูมิความร้อนให้กับร่างกายด้วย