ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประชุมแนวทางกักกันผู้เดินทางกลับจากตปท. ชี้กลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ อาจอนุญาตให้ทำกิจกรรมนอกห้องพักได้หลังตรวจเชื้อโควิดเป็นลบครั้งที่ 1 ส่วนกลุ่มเสี่ยงปานกลางและสูงต้องพบเชื้อครั้งที่ 2 เป็นลบก่อน ทั้งหมดที่ประชุมศบค.สธ.จะพิจารณาในสัปดาห์นี้

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2563 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะทำงานกำหนดมาตรฐานการดำเนินงานกับโรงแรมสำหรับเป็นที่กักตัวผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ (State Quarantine, Alternative State Quarantine และ Alternative Hospital Quarantine) ว่า มาตรการกักตัว หลักๆ คือ แบ่งเป็นกลุ่มประเทศต้นทางที่เข้ามา ซึ่งถ้าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ก็อาจจะมีการอนุญาตให้สามารถออกมาทำกิจกรรมนอกห้องพักได้ หลังการตรวจเชื้อครั้งที่ 1 เป็นลบ แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดคือการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง การกำหนดรอบและจำนวนคน ไปใช้พื้นที่ต่างๆ รวมถึงการทำความสะอาดก่อน

“ส่วนประเทศที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงเสี่ยงสูง จะพิจารณาอย่างเข้มงวด อาจจะอนุญาตให้ออกมาทำกิจกรรมได้หลังผลการตรวจเชื้อครั้งที่ 2 เป็นลบแล้ว ภายใต้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มข้นเช่นเดียวกัน โดยข้อเสนอวันนี้จะต้องนำเข้าที่ประชุม ศบค.สธ. อีกครั้ง ซึ่งจะประชุมภายในสัปดาห์นี้” นพ.ธเรศ กล่าว

เมื่อถามถึงการสุ่มตรวจมาตรฐานสถานที่กักกันทางเลือกต่างๆ หลังเกิดกรณีเชื้อโควิดในฟิตเนสของสถานที่กักกันทางเลือกที่จ.สมุทรปราการ นพ.ธเรศ กล่าวว่า ปัจจุบันมีโรงแรมที่ได้รับการรับรองให้เป็นสถานที่กักตัวทางเลือก 101 แห่ง คณะทำงานก็มีการหารือกันและคิดว่าต้องสุ่มลงไปเยี่ยมเยียนและให้คำแนะนำต่างๆ โดยจะเลือกไปที่สถานที่ที่ค่อนข้างได้รับการร้องเรียนเข้ามาถึงเรื่องมาตรฐาน การบริหารจัดการต่างๆ เลือกไปยังโรงแรมที่พบอัตราการติดเชื้อที่มาจากประเทศต้นทางที่ค่อนข้างเยอะและถี่ เป็นต้น ซึ่งเท่าที่ดูมีอยู่จำนวนไม่เยอะ